เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป (Expedia Group) แพลตฟอร์มการเดินทางระดับโลก เผยข้อมูลว่า โดยสถิติเกือบ 90% ชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ต่างเดินทางไปเที่ยวเมืองรอง ได้แก่ เชียงราย, เกาะหลีเป๊ะ, แม่ฮ่องสอน, ตรัง และตราด อัตราการเดินทางสู่เมืองรองเหล่านี้ยังไม่มีวี่แววจะลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นถึง 30% ปีต่อปี
จากการศึกษาเทรนด์นักท่องเที่ยวขาเข้า จะเห็นได้ว่าจังหวัดตราดเป็นจุดหมายปลาย
ทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาห้าเมืองรองที่กล่าวมา ด้วยส่วนแบ่งของนักเดินทางต่างชาติกว่าครึ่ง ตามมาด้วยเกาะหลีเป๊ะและเชียงราย ในขณะที่จังหวัด
ตราด และเกาะหลีเป๊ะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% ปีต่อปี โดยเชียงรายนำมาด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นถึง 60% ปีต่อปี จังหวัดแม่ฮ่องสอนและตรังต่างมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไล่เลี่ยกันถึง 40% ปีต่อปี
ด้วยความสวยงามของเกาะน้อยใหญ่ ชายหาด และผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้จังหวัดตราดและตรังเป็นที่นิยมสำหรับนักเดินทางจากยุโรป นักเดินทางจากสวีเดน เยอรมนี
และเดนมาร์ก นับเป็นจำนวนเกือบ 40% ของนักเดินทางจากต่างชาติทั้งหมดที่หลั่งไหลเข้ามายังเมืองรองเหล่านี้ และนักเดินทางเหล่านี้ยังมียอดการจองทริปล่วงหน้า
เฉลี่ยถึง 71 วันก่อนเดินทาง (เร็วกว่าช่วงเวลาการจองโดยเฉลี่ยถึง 25 วัน) มีการใช้จ่ายสูงกว่าอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันถึง 15% และมีระยะเวลาเข้าพักที่ 5 วันต่อทริป (มากกว่าระยะเวลาเข้าพักโดยเฉลี่ย 1.3 เท่า) นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้นักเดินทางกลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักเดินทางระดับพรีเมียมสำหรับโรงแรมคู่ค้า
ในขณะเดียวกัน ความวิจิตรงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดร่องขุ่น ทัศนียภาพของเทือกเขาที่น่าประทับใจ และความน่าสนใจของวิถีชีวิตชนเผ่าพื้นเมือง ทำให้
เชียงรายและแม่ฮ่องสอนแป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักเดินทางชาวเอเชียได้อย่างดี กว่าครึ่งของนักเดินทางสู่ประเทศไทยมาจากประเทศอินโดนีเซีย จีน ญี่ปุ่น และ
เกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเป็นกลุ่มนักเดินทางที่มีอัตราการใช้จ่ายสูง และยังเป็นสาเหตุที่แม่ฮ่องสอนและเชียงรายมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่มีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันที่ 10% และกว่า 5% ปีต่อปีตามลำดับ โดยนักเดินทางจากเมืองไกลเหล่านี้มักจองที่พักล่วงหน้าตั้งแต่ 25 ถึง 35 วันก่อนการเดินทาง
ในบรรดาเมืองรองทั้ง 5 ที่กล่าว เกาะหลีเป๊ะมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสูงสุด ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับหาดทรายขาวสวย แนวปะการังสีสันสดใส และป่าเขต
ร้อนที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยมีนักเดินทางชาวสวีเดนมาเยี่ยมเยือนมากที่สุด ในขณะที่นักเดินทางชาวอเมริกันมีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน (กว่า 40% ปีต่อปี) พร้อมทั้งยังมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น (เกือบ 10% ปีต่อปี)
ข้อมูลจากเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ยังยืนยันได้อีกว่า นักเดินทางชาวอเมริกันมีอัตราการใช้จ่ายไปกับที่พักสูงกว่านักเดินทางชาวสวีเดนถึง 20% อีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นนักเดินทางระดับพรีเมียม ได้แก่นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นกลุ่มนักเดินทางระยะไกลเพียงกลุ่มเดียวที่มีอัตราการเติบโตของอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันเป็นตัวเลขสองหลักสำหรับการเดินทางมายังเกาะหลีเป๊ะในช่วงเวลาเดียวกัน (เพิ่มขึ้น 10% ปีต่อปี)
"เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นนักเดินทางชาวต่างชาติเดินทางมาสำรวจท่องเที่ยวในเมืองที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในประเทศไทย และด้วยจำนวนนักเดินทางที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรากว่า 675 ล้านคนต่อเดือน เราเชื่อว่า เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนแคมเปญ 'Go Local' ซึ่งเป็นแคมเปญการตลาดล่าสุดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" พิมพ์ปวีณ์ นพกิจกำจร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป กล่าว
"แบรนด์ของเรามีเว็บไซต์ท่องเที่ยวกว่า 200 เว็บไซต์ ในกว่า 75 ประเทศ มีทั้งหมด 35 ภาษา ซึ่งหมายความว่าเราสามารถช่วยให้โรงแรมคู่ค้าสามารถเปิดรับนักท่อง
เที่ยวที่หลากหลายได้ยิ่งขึ้น เรายังสามารถช่วยกระจายจำนวนนักท่องเที่ยวสู่ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง หรือสู่ชนบทได้อีกด้วย โดยทีมงานของเรายินดีให้ความรู้
ความเข้าใจแก่โรงแรมคู่ค้า เพื่อให้โรงแรมเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดของโรงแรมบนเว็บไซต์ ผ่านระบบการจองการเดินทางและห้องพักออนไลน์ (หรือ
OTAs) และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียมได้มากขึ้น" พิมพ์ปวีณ์กล่าวเสริม
"การทำงานร่วมกับเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป สามารถช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีโอกาสใช้จ่ายสูงได้มากยิ่งขึ้น เราสามารถเห็นเทรนด์ของนักเดินทางชาวต่างชาติที่มีการเข้าพักที่นานกว่า มีอัตราการใช้จ่ายมากกว่า และมีการจองล่วงหน้านานกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ การเติบโตนี้เป็นตัวอย่างที่ดี จากการที่เราสามารถเข้าถึงเทรนด์การท่องเที่ยวของนักเดินทางชาวต่างชาติ จากการเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป มีให้อีกด้วย" ไอรินภรณ์ ไพศาลนิยมศรี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภูใจใส เมาน์เท่น รีสอร์ท เชียงใหม่ กล่าว
จากการศึกษาเทรนด์นักท่องเที่ยวขาเข้า จะเห็นได้ว่าจังหวัดตราดเป็นจุดหมายปลาย
ทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาห้าเมืองรองที่กล่าวมา ด้วยส่วนแบ่งของนักเดินทางต่างชาติกว่าครึ่ง ตามมาด้วยเกาะหลีเป๊ะและเชียงราย ในขณะที่จังหวัด
ตราด และเกาะหลีเป๊ะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20% ปีต่อปี โดยเชียงรายนำมาด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นถึง 60% ปีต่อปี จังหวัดแม่ฮ่องสอนและตรังต่างมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไล่เลี่ยกันถึง 40% ปีต่อปี
ด้วยความสวยงามของเกาะน้อยใหญ่ ชายหาด และผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้จังหวัดตราดและตรังเป็นที่นิยมสำหรับนักเดินทางจากยุโรป นักเดินทางจากสวีเดน เยอรมนี
และเดนมาร์ก นับเป็นจำนวนเกือบ 40% ของนักเดินทางจากต่างชาติทั้งหมดที่หลั่งไหลเข้ามายังเมืองรองเหล่านี้ และนักเดินทางเหล่านี้ยังมียอดการจองทริปล่วงหน้า
เฉลี่ยถึง 71 วันก่อนเดินทาง (เร็วกว่าช่วงเวลาการจองโดยเฉลี่ยถึง 25 วัน) มีการใช้จ่ายสูงกว่าอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันถึง 15% และมีระยะเวลาเข้าพักที่ 5 วันต่อทริป (มากกว่าระยะเวลาเข้าพักโดยเฉลี่ย 1.3 เท่า) นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้นักเดินทางกลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักเดินทางระดับพรีเมียมสำหรับโรงแรมคู่ค้า
ในขณะเดียวกัน ความวิจิตรงดงามของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดร่องขุ่น ทัศนียภาพของเทือกเขาที่น่าประทับใจ และความน่าสนใจของวิถีชีวิตชนเผ่าพื้นเมือง ทำให้
เชียงรายและแม่ฮ่องสอนแป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักเดินทางชาวเอเชียได้อย่างดี กว่าครึ่งของนักเดินทางสู่ประเทศไทยมาจากประเทศอินโดนีเซีย จีน ญี่ปุ่น และ
เกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเป็นกลุ่มนักเดินทางที่มีอัตราการใช้จ่ายสูง และยังเป็นสาเหตุที่แม่ฮ่องสอนและเชียงรายมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่มีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันที่ 10% และกว่า 5% ปีต่อปีตามลำดับ โดยนักเดินทางจากเมืองไกลเหล่านี้มักจองที่พักล่วงหน้าตั้งแต่ 25 ถึง 35 วันก่อนการเดินทาง
ในบรรดาเมืองรองทั้ง 5 ที่กล่าว เกาะหลีเป๊ะมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสูงสุด ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับหาดทรายขาวสวย แนวปะการังสีสันสดใส และป่าเขต
ร้อนที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยมีนักเดินทางชาวสวีเดนมาเยี่ยมเยือนมากที่สุด ในขณะที่นักเดินทางชาวอเมริกันมีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน (กว่า 40% ปีต่อปี) พร้อมทั้งยังมีอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น (เกือบ 10% ปีต่อปี)
ข้อมูลจากเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ยังยืนยันได้อีกว่า นักเดินทางชาวอเมริกันมีอัตราการใช้จ่ายไปกับที่พักสูงกว่านักเดินทางชาวสวีเดนถึง 20% อีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นนักเดินทางระดับพรีเมียม ได้แก่นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นกลุ่มนักเดินทางระยะไกลเพียงกลุ่มเดียวที่มีอัตราการเติบโตของอัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันเป็นตัวเลขสองหลักสำหรับการเดินทางมายังเกาะหลีเป๊ะในช่วงเวลาเดียวกัน (เพิ่มขึ้น 10% ปีต่อปี)
"เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นนักเดินทางชาวต่างชาติเดินทางมาสำรวจท่องเที่ยวในเมืองที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในประเทศไทย และด้วยจำนวนนักเดินทางที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรากว่า 675 ล้านคนต่อเดือน เราเชื่อว่า เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนแคมเปญ 'Go Local' ซึ่งเป็นแคมเปญการตลาดล่าสุดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" พิมพ์ปวีณ์ นพกิจกำจร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป กล่าว
"แบรนด์ของเรามีเว็บไซต์ท่องเที่ยวกว่า 200 เว็บไซต์ ในกว่า 75 ประเทศ มีทั้งหมด 35 ภาษา ซึ่งหมายความว่าเราสามารถช่วยให้โรงแรมคู่ค้าสามารถเปิดรับนักท่อง
เที่ยวที่หลากหลายได้ยิ่งขึ้น เรายังสามารถช่วยกระจายจำนวนนักท่องเที่ยวสู่ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง หรือสู่ชนบทได้อีกด้วย โดยทีมงานของเรายินดีให้ความรู้
ความเข้าใจแก่โรงแรมคู่ค้า เพื่อให้โรงแรมเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดของโรงแรมบนเว็บไซต์ ผ่านระบบการจองการเดินทางและห้องพักออนไลน์ (หรือ
OTAs) และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียมได้มากขึ้น" พิมพ์ปวีณ์กล่าวเสริม
"การทำงานร่วมกับเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป สามารถช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีโอกาสใช้จ่ายสูงได้มากยิ่งขึ้น เราสามารถเห็นเทรนด์ของนักเดินทางชาวต่างชาติที่มีการเข้าพักที่นานกว่า มีอัตราการใช้จ่ายมากกว่า และมีการจองล่วงหน้านานกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ การเติบโตนี้เป็นตัวอย่างที่ดี จากการที่เราสามารถเข้าถึงเทรนด์การท่องเที่ยวของนักเดินทางชาวต่างชาติ จากการเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป มีให้อีกด้วย" ไอรินภรณ์ ไพศาลนิยมศรี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภูใจใส เมาน์เท่น รีสอร์ท เชียงใหม่ กล่าว
