รฟม.เปิดตัวเป็นทางการ ให้บัตรสวัสดิการขึ้นรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสีม่วงได้แล้ว ผู้ถือบัตร 1.3 ล้านใบที่อยู่ใน กทม.และ 6 จว.ใกล้เคียง ทยอยนำบัตรลงทะเบียนแล้วกว่า 1 หมื่นใบ “อาคม” ชี้เงินในบัตรเหลือไม่พอ ติดลบได้ 1 เที่ยว โดยหักในเดือนหน้า และผู้ถือบัตรสามารถเติมเงินเพิ่มในบัตรได้อีกเพื่อความสะดวก ขณะที่รถเมล์ ขสมก.-แอร์พอร์ตลิงก์ใช้ได้ ต.ค.นี้ ส่วนบีทีเอสคาดใช้เวลาเจรจาปรับปรุง 1 ปี
วันนี้ (20 ก.ค.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในระบบรถไฟฟ้า MRT ภายใต้แนวคิด “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับรถไฟฟ้า MRT” โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน และนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกระทรวงคมนาคมกระทรวงการคลัง ผู้บริหาร รฟม. และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ร่วมงาน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า วันนี้ (20 ก.ค.) เป็นวันแรกที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะสามารถใช้เดินทางกับรถไฟฟ้า MRT ซึ่ง รฟม.และ BEM ได้เปิดให้ผู้ถือบัตรลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. 2561 - 30 ก.ย. 2561 แล้ว สำหรับในบัตรสวัสดิการนั้นจะมีกระเป๋าเงินจำนวน 500 บาท สำหรับใช้ระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และใช้ได้กับรถเมล์ ขสมก. และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561
โดยใน 7 จังหวัด กรุงเทพมหานคร และจังหวัดรอบๆ มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1.3 ล้านคน โดยที่นำบัตรสวัสดิการมาลงทะเบียนกับรถไฟฟ้าแล้วประมาณ 10,000 ใบแล้ว ซึ่งจะเร่งประชาสัมพันธ์ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กรณีที่มีการเดินทางเดินจำนวนวงเงินที่เหลือ รฟม.จะอนุญาตให้เดินทางได้อีก 1 ครั้ง โดยจะคิดเป็นค่าติดลบในบัตรและหักเงินในเดือนต่อไปที่รัฐจะเติมเงินเข้าบัตร นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ สามารถเติมเงินเข้าบัตรได้เองด้วย กรณีที่ใช้การเดินทางเกิน 500 บาทต่อเดือน และเมื่อนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ ละทะเบียนกับรถไฟฟ้าแล้วจะสามารถนำไปใช้กับระบบรถเมล์ ขสมก.ได้เลย ในเดือน ต.ค. 2561
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่า ในส่วนของการใช้บัตรแมงมุมและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้นจะต้องรอการเจรจาซึ่งยังไม่เรียบร้อย โดยบีทีเอสยืนยันจะปรับไปใช้รองรับระบบ EVM ซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวว่า รฟม.มีความพร้อมที่จะให้บริการแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้า MRT แล้วตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะให้ใช้บริการในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงได้นั้นจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประเภท Hybrid 2 Chips คือในลักษณะเป็น Contact Chip และ Contactless Chip โดยแถบแม่เหล็ก Contact Chip จะเป็นไปตามมาตรฐานกลางระบบตั๋วร่วม (แมงมุม) โดยมีสัญลักษณ์แมงมุมที่ด้านหลังบัตร ซึ่งบัตรประเภทนี้จะเป็นบัตรสำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนใน 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม โดยประชาชนสามารถใช้ชำระค่าโดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT ทั้ง 2 สาย และรถโดยสารประจำทาง ขสมก. (ที่มีระบบ E-Ticket) ภายในวงเงินรวมกัน 500 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ รฟม.ได้เปิดให้ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประเภทดังกล่าว นำบัตรฯ มาขึ้นทะเบียนเพื่อใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา และบัตรที่ขึ้นทะเบียนแล้วสามารถใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้าได้ตั้งแต่วันนี้ (20 ก.ค.) เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประเภท Hybrid 2 Chips ยังสามารถนำบัตรฯมาขึ้นทะเบียนได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2561 ระหว่างเวลา 11.00-20.00 น. ณ จุดขึ้นทะเบียนบัตรฯ ภายในสถานีรถไฟฟ้า NRT สายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ทุกสถานี แต่สำหรับผู้ที่จะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประเภท Hybrid 2 Chips ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 เป็นต้นไป จะสามารถนำบัตรฯ มาใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT ได้ทันที (เนื่องจากบัตรได้รับการขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว) สำหรับการใช้ระบบตั๋วร่วมในเรือโดยสารนั้น คาดว่าจะใช้เวลาเตรียมพร้อมระบบถึงปลายปี 2561 เนื่องจากต้องใช้เวลาในการสั่งซื้ออุปกรณ์และติดตั้งใหม่ทั้งหมด