“กนอ.” จับมือร่วมดำเนินงานกับ บ.บ่อทองอินดัสทรีฯ ผุดนิคมฯบ่อทอง 33 ในพื้นที่ 1.7 พันไร่ จ.ปราจีนบุรี ลงทุนกว่า 1,700 ล้านบาท รับอุตฯ ยานยนต์ เกษตรแปรรูป พลาสติกชีวภาพ เตรียมร่อนหนังสือถึงกรมโยธาฯ หลังเอกชนจ่อผุดนิคมฯ 20 โครงการพื้นที่กว่า 3.5 หมื่นไร่ในอีอีซี แต่ติดพื้นที่สีเขียว
นางสุวัฒนา กมลวัทนนิศา รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สายงานยุทธศาสตร์และพัฒนา เปิดเผยว่า วันนี้ (19 ก.ค.) กนอ.ได้ลงนามร่วมดำเนินงานกับบริษัท บ่อทองอินดัสทรี เทคโนโลยี จำกัด เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง 33 ในอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่ 1,746 ไร่ สามารถเชื่อมโยงพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว และพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่พร้อมเป็นฐานการผลิตและการดึงดูดการลงทุน ใช้เงินในการพัฒนารวม 1,710.52 ล้านบาท
นิคมฯ ดังกล่าวจะรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร อุตสาหกรรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ และอุตสาหกรรมการเบา เช่น เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมนำแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Estate) ที่มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ปฏิบัติการตามกฎหมาย/มาตรฐานสากล มาดำเนินการควบคู่การพัฒนาพื้นที่ในเฟสแรกที่จะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี และพร้อมรองรับการลงทุนต่อไป
“นิคมฯ ดังกล่าวจะก่อให้เกิดการเข้ามาลงทุนไม่น้อยกว่า 49,456 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานไม่น้อยกว่า 11,240 คน” นางสุวัฒนากล่าว
ปัจจุบัน กนอ.ได้เตรียมพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซีตามนโยบายรัฐบาลแล้ว 33 นิคมฯ รวมพื้นที่ 124,606 ไร่ (ไม่รวมพื้นที่ในการดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม) ถือว่าเร็วกว่าเป้าหมายที่รัฐกำหนดให้เตรียมพื้นที่ไว้ 150,000 ไร่ภายในปี 2564
โดยเร็วๆ นี้กนอ.เตรียมส่งหนังสือเพื่อหารือกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงทรวงมหาดไทย เพื่อหาทางออกถึงปัญหาการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมที่ล่าสุดเอกชนมีความสนใจที่จะลงทุนพัฒนาพื้นที่ประมาณ 20 โครงการพื้นที่รวมกว่า 35,782 ไร่ แต่ติดปัญหาที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีเขียวซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยหากจะดำเนินโครงการได้จะต้องเป็นพื้นที่สีม่วง (รองรับอุตสาหกรรม) ได้เท่านั้น
“โครงการที่สนใจ 20 โครงการนี้อยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา 24,718 ไร่ ชลบุรี 6,606 ไร่ และระยอง 4,458 ไร่ ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่อีอีซี” นางสุวัฒนากล่าว
