PTTOR ทบทวนแผนธุรกิจ 5 ปีใหม่ เตรียมเสนอบอร์ดฯ อนุมัติ ส.ค.นี้ พร้อมรุกธุรกิจ Non oil และต่างประเทศเพิ่มขึ้น พร้อมเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน ที่จ้างผู้พิการการได้ยินมาเป็นบาริสต้า ประเดิม 2 แห่งแรกที่มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งเป้าปีนี้เปิดรวม 5 สาขา
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) อยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจ 5 ปีใหม่ (2561-2565) คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการบริษัท PTTOR ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยยังคงนโยบายที่จะเติบโตไปพร้อมกับชุมชุม และสังคม
โดยในปี 2560 ธุรกิจน้ำมันของ ปตท.มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็น EBITDA มาจากธุรกิจน้ำมันในประเทศราว 80% และที่เหลือมาจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non oil) และต่างประเทศ 20% ดังนั้น บริษัทฯ จะนำ EBITDA ธุรกิจน้ำมันในประเทศมาต่อยอดในการรุกธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันและธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีอัตราการเติบโต 2 หลัก มากกว่าการเติบโตธุรกิจน้ำมัน โดยจะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจนในปีหน้า
นายอรรถพลกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกระทรวงฯ ห้ามผลิต จำหน่ายและนำเข้าไขมันทรานส์ภายใน 180 วันว่าทางร้านกาแฟคาเฟู อเมซอนได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเครื่องดื่มในร้านคาเฟ่อเมซอนไม่มีไขมันทรานส์ โดยซัปพลายเออร์ยืนยันว่าไม่มีไขมันทรานส์ แต่ PTTOR จะมีการตรวจสอบอย่างชัดเจนอีกครั้ง ส่วนเบเกอรีนั้นจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีไขมันทรานส์หรือไม่ เพราะทางร้านรับเบเกอรีจากผู้ผลิตรายย่อย
วันนี้ (17 ก.ค.) นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ ดร.วรางคณา รัชตะวรรณ รักษาการแทนรอง คณบดีฯ วิทยาลัยราชสุดา ร่วมในพิธีเปิด Café Amazon for Chance ร้านกาแฟแห่งแรกที่ดำเนินการโดยผู้พิการด้านการได้ยิน เพื่อเปิดโอกาสในการพัฒนาความสามารถ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้พิการทางการได้ยินที่จบการศึกษาจากวิทยาลัยราชสุดา
นายเทวินทร์กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ตระหนักถึงพลังของการดำเนินงานธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่นำจุดแข็งของธุรกิจมาช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมได้อย่างยั่งยืน จึงได้จัดตั้งบริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ขึ้นเพื่อดำเนินงานทางด้านวิสาหกิจเพื่อสังคมให้กับกลุ่ม ปตท. โดยโครงการ Café Amazon for Chance เป็นอีกหนึ่งในโครงการวิสาหกิจชุมชน มีการพัฒนาทักษะการทำงานให้แก่ผู้พิการทางการได้ยินมาฝึกอบรมพัฒนาความสามารถในสายอาชีพนี้เป็นบาริสต้า
ทั้งนี้ ปตท.ตั้งใจที่จะพัฒนาธุรกิจกาแฟด้วยรูปแบบ Inclusive Business คือให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำเพื่อที่จะมีรายได้ โดยเริ่มจาก ปตท.รับซื้อเมล็ดกาแฟคุณภาพจาก “โครงการซื้อขายเมล็ดกาแฟดิบ” ของมูลนิธิโครงการหลวง และ ปตท. รวมกว่า 630 ตัน นำมาผลิตเป็นกาแฟคั่วบดคุณภาพสูงเพื่อใช้ในร้านCafé Amazon ทั้งในและต่างประเทศกว่า 2,300 สาขา โดยเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอาจร่วมมือกันต่อยอดตั้งโรงงาน โดยมี ปตท.เป็นผู้รับซื้อ
นอกจากนี้ ปตท.จ้างคนพิการเข้ามาทำงานตามข้อกฎหมาย แทนการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งปัจจุบันปตท.มีการจ้างพนักงานคนพิการแล้ว 50 คนตามสัดส่วนจำนวนพนักงาน 5 พันคนแล้วโดยให้พนักงานดังกล่าวช่วยตรวจสอบปั๊มน้ำมัน ปตท.Friendly Design ว่ามีความเหมาะสมกับผู้พิการหรือไม่ หรือต้องแก้ไขจุดไหน และให้ความรู้ความเข้าใจเพื่อตระหนักเรื่องอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลด้วย
น.ส.จิราพรกล่าวว่า ร้านคาเฟ่ อเมซอน ที่ดำเนินการโดยผู้พิการทางการได้ยินมีอยู่ 2 สาขา ณ สำนักงานอธิการบดี และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยจะขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขาบ้านเจ้าพระยา สาขาโรงพยาบาลแหลมฉบัง สาขากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภายในสิ้นปี 2561
“สำหรับความพิเศษของสาขา Café Amazon for Chance แห่งนี้เราจะใช้เครื่องบดกาแฟแบบดิจิทัลที่ลดภาระการตวงกาแฟทำให้รสชาติของกาแฟมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เป็นการลดปัญหาความคลาดเคลื่อนในการเตรียมเครื่องดื่ม และทำให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น และการสั่งเครื่องดื่มโดยใช้เครื่องชำระเงินระบบ 2 หน้าจอ (Duo Screen POS) เป็นการลดความผิดพลาดของการสั่งสินค้า เพราะทางลูกค้าสามารถตรวจสอบรายการของตนเองได้ทันที” น.ส.จิราพรกล่าว