กรมทางหลวงเผยสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงประจำเดือน มิ.ย. 61 เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. 60 ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4% โดยสาเหตุหลักมาจากใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ขณะที่ถนนในพื้นที่ภาคเหนือครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง ได้สรุปรายงานข้อมูลอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำเดือนมิถุนายน 2561 จากการรายงานอุบัติเหตุทางระบบ HAIMS ซึ่งพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนทางหลวงในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงจำนวน 714 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 135 ราย ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 518 คน จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุ 981 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 11 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบสถิติอุบัติเหตุประจำเดือนมิถุนายน 2560 จำนวนอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8% ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4% บาดเจ็บลดลง 6% จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งสาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 65% (467 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ หลับใน 8% (60 ครั้ง) การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 6% (46 ครั้ง) และอุปกรณ์รถบกพร่อง 2% (13 ครั้ง)
สำหรับอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบริเวณทางตรง 59% (423 ครั้ง) ทางโค้งปกติ 18% (125 ครั้ง) และทางลาดชัน 7% (48 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิกอัพบรรทุก 4 ล้อ 37% (360 คัน) รถยนต์นั่ง 21% (208 คัน) และรถจักรยานยนต์ 11% (113 คัน)
หากจำแนกตามภาคของการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าเส้นทางในภาคเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 25% ภาคตะวันออกเหนือ 23% และภาคใต้ 18% นอกจากนี้ ทางหลวงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ทางหลวงหมายเลข 11 บึงหลัก-หนองน้ำเขียว จำนวน 13 ครั้ง หากจำแนกตามรายจังหวัดพบว่าจังหวัดนครราชสีมาเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาได้แก่ จังหวัดแพร่ และจังหวัดตาก ตามลำดับ
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยของท่านและผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลต่อไป
หากประชาชนผู้ใช้ทางต้องการแจ้งอุบัติเหตุหรือสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทร.ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง
