สนข.ศึกษาแผนพัฒนาและลงทุน ICD ฉะเชิงเทรา รองรับการขนส่งสินค้างทางรางเชื่อมท่าเรือในพื้นที่ EEC แบบไร้รอยต่อ และลดแออัด ICD ลาดกระบัง ดึงสินค้าภาคเหนือและอีสานรวมศูนย์เป็นฮับเชื่อมเพื่อนบ้าน ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของประเทศ
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดประชุมสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องครั้งที่ 1 การศึกษาโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือ ICD ฉะเชิงเทรา รองรับ EEC ว่าเมื่อมีการลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นจะเกิดการการขนส่งสินค้ามากขึ้นซึ่งมีทั้งการส่งเสริม 11 อุตสาหกรรม ประกอบกับ ICD ลาดกระบัง มีความแออัดจำเป็นต้องเพิ่ม ICD ที่เชื่อมเข้าสู่พื้นที่ท่าเรือ ซึ่งพบว่า จ.ฉะเชิงเทรา เป็นจุดที่ทางรถไฟสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือจะเชื่อมไปยังท่าเรือโดยไม่ผ่านกรุงเทพ โดยเชื่อมจากแก่งคอย-คลองสิบเก้า-ฉะเชิงเทรา มารวมในพื้นที่ EEC เป็นโครงการที่จะรองรับการขนส่งสินค้าทางน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางราง ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ได้
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์การเงิน และสิ่งแวดล้อม ตำแหน่งที่ตั้ง และมูลค่าที่ลงทุน รูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม รูปแบบการบริหารจัดการแบบไร้รอยต่อ ระหว่าง ICD ฉะเชิงเทรา และ 3 ท่าเรือ คาดว่าจะต้องมีการแบ่งเฟสในการลงทุน และรัฐจะลงทุนในเรื่องที่ดินและระบบสาธารณูปโภค เป็นต้น โดยจะใช้เวลาศึกษา 9 เดือน (18 พ.ค. 2561- 17 ก.พ. 2562 )
สำหรับ ICD ฉะเชิงเทรา จะเป็นศูนย์กลางรองรับการรวบรวมและกระจายสินค้า รวมถึงเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างนิคมอุตสาหกรรมรอบพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าเข้าสู่พื้นที่ EEC และท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และท่าเรือมาบตาพุด ตลอดจนส่งเสริมบทบาทให้ EEC เป็นประตูการค้าของกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม
“การดำเนินการศึกษาดังกล่าวจะทำให้โครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์รองรับ EEC มีความเหมาะสมในทุกๆ มิติ ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านของการลดความแออัดของสถานีขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ ลาดกระบัง พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ผลักดันให้เกิดการ Shift Mode หรือเปลี่ยนถ่ายการขนส่งคอนเทนเนอร์สู่ระบบราง ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ และส่งเสริมให้ EEC เป็นประตูการค้าของอาเซียน รวมถึงยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ
ระดับโลกต่อไป” นายชัยวัฒน์กล่าว