กระทรวงอุตสาหกรรมลุยพื้นที่เข้าตรวจสอบบริษัท ดับบลิว เอ็ม ดีไทย รีไซคลิ้ง จ.ฉะเชิงเทรา อายัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ 7,000 ตัน หลังมีวัตถุอัตรายครอบครองเหตุรับมาจาก 3 โรงงานที่ได้รับสิทธิตามอนุสัญญาบาเซิล เตรียมแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระกิตติ์ รันทกิจธนวัชร์ อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนายจุลพงษ์ ทวีศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นางเบญจมาพร เอกฉัตร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ดับบลิว เอ็ม ดี ไทย รีไซคลิ้ง จำกัด จังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบกิจการรีไซเคิลชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า พลาสติก เพื่อจำหน่าย (โรงงาน 105, 106) ซึ่งภายในโรงงานดังกล่าวมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ปริมาณ 7,000 ตัน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ยึดอายัดไว้
ทั้งนี้ จากการตรรวจสอบพบว่าโรงงานดังกล่าวมีวัตถุอันตรายในครอบครอง เนื่องจากได้รับขยะอิเล็กทรอนิกส์มาจาก 3 โรงงานที่ได้รับสิทธินำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามอนุสัญญาบาเซิล คือ บริษัทเจ.พี.เอส เมทัลกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท โอ.จี.ไอ จำกัด และบริษัท ไวโรกรีน (ประเทศไทย) จำกัด
โดยของกลางทั้งหมดที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ยึดอายัดไว้ ต้องห้ามเคลื่อนย้าย/จำหน่าย หรือจ่ายแจก จนกว่าคดีจะสิ้นสุด หากพบว่ามีการเคลื่อนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์จะถือว่าผิดประมวลกฎหมายอาญา และโรงงานต้องดูแลของกลางทั้งหมด ทั้งในอาคารและที่กองอยู่นอกอาคาร โดยเฉพาะที่กองนอกอาคารให้หาผ้าใบคลุม ไม่ให้มีการปนเปื้อน และห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกบริเวณโรงงานด้วย
ทั้งนี้ การลงพื้นที่อายัดของกลางในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการ หลังจากนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานที่มีขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องสงสัยว่าผิดกฎหมายให้ดำเนินการอายัดไว้เป็นของกลางทันที และอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่ต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อโรงงานที่กระทำความผิดต่อไป