อ.ส.ค.รุกหนักเตรียมขึ้นแท่นตลาดนมพร้อมดื่ม โดยติดตั้งเครื่องบรรจุนม UHT High Speed กำลังผลิต 24,000 กล่อง /ชม. เสริมเขี้ยวเล็บกำลังการผลิตและรองรับการเติบโตของปริมาณน้ำนมดิบ พร้อมปรับโฉมรูปลักษณ์กล่องใหม่เป็นแบบ “Slim Leaf” เพิ่มความแปลกใหม่ ทันสมัย หยิบใช้งานง่ายกระตุ้นความรู้สึกของผู้บริโภค
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2561 อ.ส.ค.ได้เปิดตัวเครื่องบรรจุนม UHT แบบไฮสปีด (High Speed) รุ่น A3/Speed ขนาดบรรจุ 24,000 กล่อง /ชม. ที่โรงงานนม อ.ส.ค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น เพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับแผนวิสาหกิจ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) ที่ได้วางเป้าให้ผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายภายในปี 2564 ต้องทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 11,700 ล้านบาท และเตรียมพร้อมในการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำนมดิบล่วงหน้าของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่เป็นสมาชิกสหกรณ์และศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบที่อยู่ในเขตพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค.ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยปีนี้สูงถึง 15% จากเดิม อ.ส.ค.กำหนดเพิ่มขึ้นเพียง 6% ต่อปีเท่านั้น ทำให้ปัจจุบัน อ.ส.ค.รับปริมาณน้ำนมดิบประมาณ 735 ตัน/วัน จากสหกรณ์โคนมและศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบในเขตพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค.ทุกภูมิภาคจำนวน 44 สหกรณ์/ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ
สำหรับศักยภาพของเครื่องบรรจุนม UHT แบบไฮสปีด (High Speed) รุ่น A3/Speed นอกจากจะมีสมรรถนะกำลังผลิตสูงบรรจุได้ 24,000 กล่อง/ชม.แล้ว ยังเป็นเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการปรับปรุงและพัฒนารูปทรงกล่องนมไทย-เดนมาร์ครูปแบบใหม่ทรงสลิมลีฟ (Tetra Brik Aseptic Slim Leaf) ขนาดบรรจุ 200 มิลลิลิตร อีกด้วย
“อ.ส.ค.ได้พัฒนารูปทรงกล่องนมไทย-เดนมาร์ครูปแบบใหม่เป็นทรงสลิมลีฟ เพื่อให้มีความแปลกใหม่ ดูทันสมัย หยิบใช้งานง่าย ช่วยกระตุ้นความรู้สึกของผู้บริโภค อีกทั้งสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ถึง 6% ต่อกล่อง ช่วยตอบโจทย์ความต้องการและเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค โดยเบื้องต้นจะทดลองผลิตและจำหน่ายในท้องตลาดแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นนมรสจืดและนมโรงเรียนก่อน” ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าว
ดร.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อ.ส.ค.ยังมีแผนเตรียมที่จะติดตั้งระบบดังกล่าวเพิ่มที่โรงงานนม อ.ส.ค.ภาคใต้ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีกำลังการผลิต 24,000 กล่อง/ชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าเครื่องบรรจุเดิมที่เป็นแบบโลว์สปีด (Low Speed) กำลังผลิต 7,500-8,000 กล่อง/ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งนี้ อ.ส.ค.ต้องการยกระดับกระบวนการบริหารจัดการภายในทางด้านการจัดหาวัตถุดิบน้ำนมดิบเข้าโรงงานให้เพียงพอต่อความต้องการ รวมทั้งสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตราสินค้าให้แข็งแกร่งเป็นที่จดจําของผู้บริโภคไปพร้อมกับการเพิ่มกําลังการผลิตให้อยู่ในระดับที่ช่วยส่งเสริมการขายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขยายกำลังผลิตโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ อ.ส.ค.ที่แสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมนมของประเทศในอนาคต เป็นการเพิ่มขีดความสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คแข่งขันได้ในตลาดทั้งภายใน และต่างประเทศ
ปัจจุบัน อ.ส.ค.สามารถทำยอดจำหน่ายได้ทะลุจากที่วางเป้าหมายไว้ในปี 61 นี้ 9,000ล้านบาท แต่เดือนมิถุนายนสามารถทำยอดจำหน่ายได้แล้ว 9,000 กว่าล้านบาท
สำหรับการขยายกำลังผลิตโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ของ อ.ส.ค.ในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาและวางแผนวิสาหกิจ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) ที่วางเป้ามุ่งพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมนมให้ครบวงจรและมีมูลค่าเพิ่ม และมุ่งบริหารจัดการองค์กรให้เป็นองค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง (High Performance Orgamization : HPO) ตลอดจนปรับปรุงกระบวนการการผลิตให้ยกระดับสู่มาตรฐานสากล หรือ World class
รวมทั้งผลักดันผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คสู่ผู้นำผลิตภัณฑ์นม โดยวางเป้ามีส่วนแบ่งตลาดนมทั่วไปในประเทศเติบโตขึ้น 1.5% ต่อปี และมีแผนเร่งพัฒนาศักยภาพตัวแทนจำหน่ายสินค้า (Distributor /Agent) ในกลุ่มตลาด Traditional Trade หรือ TT เพิ่มขึ้น 5% ต่อปี จากปัจจุบันมีทั่วประเทศ 46 ราย เพื่อยกระดับเป็นสมาร์ทเอเยนต์ (Smart Agent) มุ่งให้เป็นทีมตลาดที่แข็งแกร่งและเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในแบรนด์ไทย-เดนมาร์คให้แก่คู่ค้าและผู้บริโภคครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมทั้งพัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น
