บีโอไอชี้ข่าวเว้นภาษีเงินได้ให้ผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ในกิจการซื้อขายสินค้าออนไลน์เหนือกว่าคนไทยบิดเบือน ย้ำการขายสินค้าออนไลน์ไม่ว่ารายใดก็ไม่ได้รับการยกเว้นฯ ส่วนที่ได้รับยกเว้นคือกิจการศูนย์กระจายสินค้าอัจฉริยะ เฉพาะรายได้จากการให้บริการกระจายสินค้าระหว่างประเทศ
จากกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ในลักษณะว่าสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ให้สิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่ผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่เป็นพิเศษในกิจการซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยเป็นการให้สิทธิเหนือกว่าผู้ประกอบการชาวไทยนั้น ล่าสุดบีโอไอได้ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวดังนี้
1. บีโอไอไม่ได้ให้สิทธิในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่กิจการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นกิจการซื้อขายสินค้าออนไลน์ของคนไทยหรือของต่างชาติก็จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการขายสินค้า
2. บีโอไอเปิดให้การส่งเสริมกิจการที่เกี่ยวข้อง คือ “กิจการศูนย์กระจายสินค้าอัจฉริยะ” เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาค และขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และระบบอัตโนมัติที่ทันสมัย และมีการจ้างบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งหากได้รับส่งเสริมก็จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี เฉพาะรายได้จากค่าบริการกระจายสินค้าระหว่างประเทศ ส่วนรายได้จากการขายสินค้าจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแต่อย่างใด
3. การส่งเสริม “กิจการศูนย์กระจายสินค้าอัจฉริยะ” ของบีโอไอดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการไทยหรือต่างชาติก็สามารถยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนได้ ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกัน
ก่อนหน้านี้ ได้มีการแชร์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่า คนไทยขายของออนไลน์รัฐบาลนี้ออกกฎหมายขูดรีดภาษี แต่ยกเว้นภาษี 13 ปี ให้นายแจ็ก หม่า ประธานกลุ่มอาลีบาบา มาลงทุนขายของออนไลน์ ซึ่งกรมสรรพากร ได้ชี้แจงว่า ผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการทางออนไลน์มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายปัจจุบันอยู่แล้ว และกรมสรรพากร อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้บริการลูกค้าในประเทศไทย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี
ส่วนกรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีของอาลีบาบานั้น นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้ชี้แจงไปแล้วว่า การได้รับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งสิทธิประโยชน์พื้นฐานจะแตกต่างกันไปตามประเภทกิจการ โดยกิจการประเภทเดียวกันจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์เดียวกัน ปัจจุบัน การส่งเสริมการลงทุนจะมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการฝึกอบรมบุคลากรควบคู่ไปด้วย นอกจากสิทธิประโยชน์พื้นฐานแล้ว ผู้ขอรับการส่งเสริมยังอาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมด้านการพัฒนาเทคโนโลยี หากมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด การพิจารณาให้สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนให้กับอาลีบาบานั้น บีโอไอ จะมีการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประกาศกำหนด ซึ่งไม่ได้เป็นการให้เฉพาะเจาะจงกับรายใดรายหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ หากพิจารณาประเภทกิจการที่รัฐต้องการส่งเสริมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน และกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายจะพบว่าไม่ใช่กิจการที่แข่งขันกับผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการทางออนไลน์แต่อย่างใด