“ปตท.” ดึง “กสิกรไทย” ร่วมพัฒนา PTT e-Wallet เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการชำระะเงินของผู้บริโภคที่เข้าใช้บริการเติมน้ำมันและซื้อสินค้าในร้านค้าที่ปั๊ม ปตท. ตอบสนองผู้บริโภคยุคดิจิทัลและนโยบายสังคมไร้เงินสด เริ่มให้บริการได้ไตรมาส 4 นี้
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ลงนามความร่วมมือพัฒนา PTT e-Wallet เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการชำระเงินของผู้บริโภคสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยมีนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธี
น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นวัตกรรมการเงินในยุคดิจิทัลสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มการใช้เงินสดลดลง ปตท.จึงปรับทัพธุรกิจค้าปลีกด้วยการนำเทคโนโลยีด้านการเงินมาพัฒนา PTT e-Wallet รองรับกับวิถีชีวิตใหม่ของผู้บริโภค โดย ปตท.เป็นบริษัทน้ำมันรายแรกในประเทศที่พัฒนาระบบนี้เพื่อตอบสนองความคาดหวังและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติมากขึ้น ทั้งความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และความปลอดภัยด้วย คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 4 นี้
โดย PTT e-Wallet จะเป็นช่องทางการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ณ สถานีบริการน้ำมันและร้านค้าปลีก ปตท. ได้แก่ ร้านคาเฟ่ อเมซอน เท็กซัส ชิคเก้น แด๊ดดี้โด ฮั่วเซ่งฮง ติ่มซำ ศูนย์บริการยานยนต์ฟิตออโต้ และร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สามารถตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลังได้ ส่วนการชำระค่าบริการน้ำมันจะมีการออกบัตรใช้ชำระค่าน้ำมันแยกต่างหาก
นอกจากนี้ ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากการสะสมแต้ม PTT Blue Card การค้นหาร้านค้าที่ใกล้เคียง และโปรโมชันจากร้านค้าต่างๆ ให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด โดยจะสามารถใช้งานได้ทั้งในรูปแบบ Application หรือใช้ผ่านรูปแบบบัตรก็ได้ นอกจากนี้ ด้วยจำนวนสาขาของสถานีบริการน้ำมัน และร้านค้า ปตท.ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและความสะดวกเหล่านี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาบริการยุคใหม่ ธนาคารกสิกรไทยได้นำความเชี่ยวชาญจากการพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS ซึ่งเป็นแอปที่มีลูกค้าไว้วางใจและใช้บริการมากถึง 8.4 ล้านราย มาเป็นแนวทางในการวางโครงสร้างการพัฒนาแอปพลิเคชัน PTT e-Wallet ใน 2 ด้าน ดังนี้
1. ออกแบบประสบการณ์การใช้งาน โดยมีโจทย์ตั้งต้นจาก ปตท.ที่มีความเข้าใจในลูกค้าเป็นอย่างดี เพื่อให้แอป PTT e-Wallet ใช้งานง่าย และปลอดภัย ช่วยให้ลูกค้าของ ปตท.สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของ ปตท.ได้อย่างครบถ้วน 2. ออกแบบโครงสร้างวอลเล็ต ที่ตอบโจทย์ความต้องการของ ปตท. ได้แก่ เชื่อมต่อเทคโนโลยีกับแอป K PLUS ช่วยให้ลูกค้าที่ใช้แอป K PLUS สามารถสมัครใช้งาน PTT e-Wallet ได้ง่ายๆ ด้วยการยืนยันตัวตน (KYC) และสามารถโอนเงินเข้าวอลเล็ตได้ทันที สร้างระบบการเก็บข้อมูลแบบเดียวกับแอป K PLUS ช่วยรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมาก ภายใต้ความปลอดภัยระดับโลก และออกแบบระบบให้ API สามารถเชื่อมต่อกับพันธมิตรอื่นๆ เพิ่มโอกาสในการสร้างสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ร้านค้าอื่นๆ ภายในสถานีบริการ รวมถึงชุมชนมีส่วนร่วมในการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายและชำระค่าสินค้าผ่านวอลเล็ตได้ในอนาคต