โอกิลวี่ประกาศการปรับเปลี่ยนองค์กรและพันธกิจใหม่ในฐานะเครือข่ายความคิดสร้างสรรค์ซึ่งมีหน้าที่หลักเพื่อ “สร้างแบรนด์ให้มีความหมาย” (Makes Brands Matter) พร้อมเผยโครงสร้างองค์กรและอัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ กับการเดินหน้าสู่การปฏิรูปในชื่อNext Chapter
จอห์น ไซเฟิร์ท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โอกิลวี่กรุ๊ป กล่าวว่า “นื่คือการเดินทางใช้เวลา 18 เดือนสำหรับแบรนด์ของเรา และเป็นการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดของเรา เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า เรากำลังเดินหน้าเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้บริษัท ควบคู่ไปกับสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ให้กับอุตสาหกรรมซึ่งเรามีส่วนร่วมสร้างสรรค์มานานกว่า 70 ปี”
การปฏิวัติดิจิทัลได้พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมด้านการตลาดอย่างถึงราก ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภค ภูมิทัศน์สื่อ และสภาวะการแข่งขัน แนวทางของโอกิลวี่ในการตอบสนองความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือทำความเข้าใจให้ถึงแก่นของวิสัยทัศน์ คุณค่า และวิธีการคิดเกี่ยวกับแบรนด์ ซึ่งเดวิด โอกิลวี่ ใช้มาตลอดตั้งแต่ก่อตั้งเอเยนซี เน้นย้ำถึงสิ่งที่โอกิลวี่ผลักดันและเชื่อมั่นมาตลอด นั่นคือแบรนด์จะมีความหมายมากขึ้นในทุกวัน
แบรนด์โอกิลวี่ที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวจะรวมเอากลุ่มธุรกิจใหญ่สามกลุ่ม คือ โอกิลวี่แอนด์เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง โอกิลวี่วัน และโอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ ตลอดจนแบรนด์ย่อยต่างๆ ในเครือบริษัทเข้าด้วยกันเป็นกลุ่มเดียว โดยมีอัตลักษณ์องค์กร การวางตำแหน่ง โมเดลการบริการลูกค้า และงบกำไรขาดทุนร่วมกัน
กลุ่มโอกิลวี่ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว สร้างขึ้นจาก 5 องค์ประกอบหลัก ประกอบด้วย
1.การออกแบบโครงสร้างองค์กรใหม่ - ปฏิรูปจากบริษัทโฮลดิ้งที่ประกอบด้วยแบรนด์ย่อยต่างๆ สู่แบรนด์หนึ่งเดียวซึ่งประกอบด้วย 12 ทักษะ (Craft) และ 6 ความสามารถ (Capabilities)
•12 Crafts นั้นประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์, กลยุทธ์, การส่งมอบ, การบริการลูกค้า, ดาต้า, การเงิน, เทคโนโลยี, พรสวรรค์, การพัฒนาธุรกิจ, การตลาดและการสื่อสาร, งานธุรการ และการผลิต
•6 Capabilities ประกอบด้วย กลยุทธ์แบรนด์, โฆษณา, การสร้างความผูกพันกับลูกค้าและการขาย, ประชาสัมพันธ์และการสร้างอิทธิพล, การปฏิวัติดิจิทัล และการสร้างพันธมิตร
2.บริการใหม่ในการเป็นที่ปรึกษา ในชื่อ Ogilvy Consulting ซึ่งสร้างขึ้นจากความสำเร็จของ Ogilvy Red ที่มุ่งเน้นด้านบริการที่ปรึกษาเพื่อการปฏิวัติดิจิทัล (Digital Transformation) การสร้างความเติบโต การออกแบบรูปแบบธุรกิจใหม่ และสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ
3.อัตลักษณ์และระบบการออกแบบแบรนด์ใหม่ - มีการออกแบบโลโก้ใหม่ รวมทั้งเว็บไซต์บริษัทโฉมใหม่ซึ่งสะท้อนแบรนด์ Ogilvy ที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว
4.โมเดลการสร้างพันธมิตรใหม่ - เพื่อการบริหารโมเดลธุรกิจเครือข่ายที่ผสานเป็นหนึ่งเดียว เราจัดตั้งโครงสร้างพันธมิตรทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้เกิดความหลากหลายของกลุ่มผู้บริหารที่มาจากตลาดต่างๆ ทั่วโลก มีความสามารถที่แตกต่าง และช่วงวัยอันหลากหลาย ซึ่งส่งผลดีต่อแบรนด์และบริษัทอย่างเด่นชัดทั้งในปัจจุบันและอนาคต
5.แพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ - โดยมีการสร้างเครื่องมือเพื่อใช้แบ่งปันความรู้ การพัฒนาความเชี่ยวชาญ และการสร้างเครือข่ายที่เรียกว่า Connect เพื่อใช้อบรมพนักงานและจัดทีมที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้บริการลูกค้าได้ดีที่สุด
ทาม ไค เม็ง ประธานเจ้าหน้าบริหารที่ฝ่ายสร้างสรรค์ โอกิลวี่กรุ๊ป กล่าวว่า “ความคิดสร้างสรรค์คือรากฐานของเครือข่ายโอกิลวี่ทั่วโลก และเป็นจุดแข็งทางการแข่งขันที่ทรงพลังที่สุดของเรา เรากำลังสร้างธุรกิจที่สืบทอดพลังความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเดวิด โอกิลวี่ วางแนวทางไว้เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของเรา”
โลโก้ใหม่ของโอกิลวี่ สะท้อนถึงความคล่องตัว การประสานพลัง และการเชื่อมโยง ซึ่งเป็นคุณลักษณะอันโดดเด่นที่โอกิลวี่ส่งมอบให้กับลูกค้า สีแดงโอกิลวี่ได้รับการปรับโทนใหม่เป็นแพนโทนในเฉดที่สว่างขึ้น และเพิ่มสีเทา ชมพู ฟ้า และเหลือง เข้าไปเป็นสีรองเพื่อสื่อถึงการปรับตัวให้ทันสมัย โดยยังคงไว้ซึ่งรากเหง้าอันแข็งแกร่ง ฟอนต์โอกิลวี่ได้รับการออกแบบใหม่เป็น Ogilvy Serif และ Ogilvy Sans นอกจากนั้น เว็บไซต์ Ogilvy.com ก็ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางที่รวมรวมผลงานความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถพิเศษ และความเป็นผู้นำทางความคิดของโอกิลวี่ โดยโอกิลวี่จับมือกับคอลลินส์ (COLLINS) เอเยนซีดีไซน์และสร้างแบรนด์ชั้นนำในการรีแบรนด์และเปิดตัวครั้งนี้
“วันนี้เรามีโอกาสมากขึ้นในการสร้างแบรนด์ในทุกๆ แง่มุม เครือข่ายระดับโลกที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายคือสิ่งที่สร้างความแข็งแกร่งให้เรา ที่โอกิลวี่ เราออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ของแบรนด์ สร้างประสบการณ์เกี่ยวกับแบรนด์ และสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์ ด้วยการออกแบบโครงสร้างองค์กรใหม่ ทีมของเราจะสามารถทำงานร่วมกับลูกค้าได้อย่างรอบด้าน และสร้างคุณค่าแบรนด์ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าเพื่อก้าวสู่อนาคต” ไซเฟิร์ท
กล่าว