ซีอีโอ SPCG ขึ้นเวที UNCTAD โชว์วิชันผู้นำพลังงานแสงอาทิตย์แห่งอาเซียน เผย “ความเชื่อมั่น” คือกุญแจพัฒนาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ พร้อมช่วยผลักดันไทยมีความมั่นคงพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมให้โลก
นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ได้รับเกียรติเป็นวิทยากรในงาน Regional Seminar on the Promotion of Bankable Sustainable Development Goal Projects ภายใต้หัวข้อ “Private sector contributions to the SDGs” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการส่งเสริมการลงทุน จัดโดย The United Nations Conference on Trade and Development (UNCTAD) ร่วมกับสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( BOI) โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
ทั้งนี้ นางวันดีกล่าวว่า หลังเกษียณจากการทำงานในปี 2553 กระทรวงพลังงานมีนโยบายสนับสนุนด้านพลังงานหมุนเวียน โดยได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้ทุกประเภท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยได้เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจและเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จึงได้จัดทำ Business Model ขึ้นมาด้วยความเชื่อมั่น และพัฒนาธุรกิจนี้จนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นธุรกิจรูปแบบการรักษาสิ่งแวดล้อม SPCG ในฐานะผู้บุกเบิกโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทยและอาเซียน ปัจจุบันมีโครงการโซลาร์ฟาร์ม ทั้งสิ้น 36 โครงการ มีกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ ถือเป็นความสำเร็จแรกด้านพลังงานแสงอาทิตย์ของไทย และต่อมารัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของพลังงานหมุนเวียนด้านต่างๆ และจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ปี 2558-2579 ขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาล อย่างไรก็ตามเรายังได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอ ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งในฐานะที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจในช่วงเริ่มต้น
นอกจากนี้ นางวันดีได้กล่าวถึงบทบาทประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ว่าสภาสตรีฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2504 ซึ่งประเทศไทยโชคดีที่มี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็นต้นแบบของสตรีไทย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมอาชีพของสตรีไทย จนสตรีไทยได้มีอาชีพมีงานทำ ส่งเสริมรายได้ให้แก่ครอบครัวสังคมและประเทศชาติสืบมา นอกจากนี้ ตนเองก็ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือทางสายกลาง มาเป็นหลักปฏิบัติใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวันอีกด้วย
“ในฐานะประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เชื่อว่าสังคมไทยนั้นสตรีมีบทบาทสำคัญทั้งในบ้านและนอกบ้าน ผู้หญิงไทยไม่เพียงมีสถานะทางสังคมที่เท่าเทียมกับผู้ชายเท่านั้น แต่โดยแก่นแท้ยังมีสถานะที่เหนือกว่าผู้ชายไทย โดยเฉพาะในบ้านด้วย จึงขอเชิญชวนให้ผู้หญิงทั่วโลกช่วยกันเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงโลกเราให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ถือเป็นศูนย์กลางประสานงาน ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสตรีทั่วประเทศเชิดชู ส่งเสริม สนันสนุนเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมให้สืบทอดต่อไป ตลอดจนการปฏิบัติงานที่จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ สถานะภาพและสมรรถภาพของสตรีไทย โดยได้จัดกิจกรรมส่งเสริมสตรีไทยทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง เช่น การเชิดชูสตรีดีเด่นประจำปี เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีที่ได้สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม และการสนับสนุนการสร้างอาชีพของสตรีไทยในทั่วทุกภูมิภาค” นางวันดีกล่าวทิ้งท้าย
