ผู้จัดการรายวัน360 - ตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนโตอืด “โกลด์ซิตี้” ปรับกลยุทธ์สยายปีกธุรกิจใหม่สู่ “ลอจิสติกส์” ทุ่ม 70 ล้านบาทผุดคลังสินค้าใหม่รองรับที่มหาชัย พร้อมโหมช่องทางใหม่สร้างยอดขายรองเท้าทั้งช่องทางโรงงานอุตสาหกรรม และออนไลน์ อัดงบตลาดเน้นโซเชียลมีเดีย เน้นกิจกรรมสร้างแบรนด์
นายสุรศักดิ์ จินาพันธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท โกลด์ซิตี้ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ GoldCity, Fast, Chang, GC, Gold Sport ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะแตกไลน์จากกธุรกิจเดิม คือ ตลาดรองเท้าไปสู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งหรือลอจิสติกส์ เพื่อเป็นการขยายฐานทางธุรกิจและสร้างรายได้ให้องค์กรอย่างยั่งยืน และลดความเสี่ยงจากการทำตลาดแค่รองเท้าอย่างเดียว โดยที่ผ่านมามีพันธมิตรอย่าง เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังจะมีการขยายพันธมิตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนไปมากกว่า 70 ล้านบาทในการสร้างระบบคลังสินค้าที่มหาชัย มีพื้นที่มากกว่า 7,000 ตารางเมตร จากเดิมมีเพียงคลังเดียวมีพื้นที่ 5,000 ตารางเมตรในที่เดียวกันเพื่อรองรับการขยายธุรกิจครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้แล้วเสร็จและได้เริ่มทดลองการทำธุรกิจลอจิสติกส์บ้างแล้ว แต่คาดว่าจะจริงจังและเต็มที่ได้ภายในปีหน้า
โดยกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ จะจับกลุ่มผู้ประกอบการที่หลากหลาย แต่จะเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายเล็กหรือระดับเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการที่ทำตลาดออนไลน์ในการที่ต้องจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าที่ไม่ต้องเสียเวลาและไม่ต้องพบกับความยุ่งยากในการจัดส่งสินค้าเอง
“ปัจจุบันนี้ตลาดรวมรองเท้านักเรียนมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ ที่ผ่านมาตลาดรวมแทบจะไม่มีการเติบโตเลย หรือเติบโตต่ำมาก เนื่องจากอัตราการเกิดเด็กใหม่ต่ำลง และการแข่งขันก็มีความรุนแรง อีกทั้งมีผู้ประกอบการในตลาดเป็นจำนวนมาก ทั้งจากแบรนด์ของไทย และแบรนด์ต่างประเทศที่ผลิตมาจากจีนเป็นหลัก เข้ามาแย่งตลาดด้วยกลยุทธ์ราคา อีกทั้งออเดอร์ที่รับจ้างผลิตแบบโออีเอ็มให้กับหลายแบรนด์ ก็ได้เริ่มทยอยย้ายออเดอร์การผลิตไปว่าจ้างโรงงานผลิตในจีนแทนแล้ว ทำให้รายได้ส่วนนี้หายไปบ้างพอสมควร ทำให้บริษัทฯ มีกำลังผลิตเหลือมากพอที่จะมาเน้นผลิตและสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองมากขึ้น ทำให้เราต้องปรบตัว” นายสุรศักดิ์กล่าว
นอกจากปรับกลยุทธ์การตลาดของรองเท้าแล้ว เราต้องขยายธุรกิจใหม่สร้างฐานรายได้ใหม่ด้วย ซึ่งยอดขายรวมบริษัทฯ ปีที่แล้ว (2560) มีรายได้ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท เติบโตเพียง 2% เท่านั้น
นายสุรศักดิ์กล่าวด้วยว่า แผนการทำธุรกิจรองเท้าจากนี้จะเน้นการทำตลาดเชิงกิจกรรมมากขึ้น รวมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ และเน้นนวัตกรรม ตลอดจนการขยายช่องทางใหม่และกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ตั้งงบการตลาดไว้ถึง 30 ล้านบาท เพื่อทำตลาดเต็มที่ จะเน้นไปในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ จากเดิมที่เน้นโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อแบบเดิม และเน้นกิจกรรมมากขึ้นด้วย และตั้งเป้าหมายปีนี้จะมีอัตราการเติบโต 10%
ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำอันดับที่สามในตลาดรวมรองเท้าผ้าใบนักเรียน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% ซึ่งรองเท้าผ้าใบนักเรียนคือตลาดหลักของบริษัทฯ ที่มีสัดส่วนรายได้มากถึง 70% (ในส่วนนี้ แยกเป็นตลาดนักเรียน 50% และตลาดของโรงงานอุตสาหกรรม 20%) ส่วนอีก 30% เป็นรองเท้ากลุ่มอื่นๆ เช่น รองเท้าแฟชั่น รองเท้าทำงาน รองเท้าลำลอง รองเท้าแตะ รองเท้าเซฟตี้ รองเท้าผจญเพลิง รองเท้ากีฬา รองเท้าบูต ถุงเท้า เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ขยายตลาดในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมด้วยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้พนักงานโรงงานนำไปใส่ในการปฏิบัติงาน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่เติบโตดีมาก ปัจจุบันก็มีผู้ประกอบการหลายแบรนด์เข้าสู่ช่องทางนี้เหมือนกัน โดยบริษัทฯ มีทีมงานในการเจาะตลาดนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ก็มีช่องทางออนไลน์ที่เริ่มทำมาแล้ว 1-2 ปี พบว่าตลาดโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังมีสัดส่วนรายได้น้อยอยู่ก็ตาม โดยมีเคอรี่เอ็กซ์เพรสเป็นพันธมิตรจัดส่งสินค้าในช่องทางออนไลน์ให้เรา ขณะที่ช่องทางจำหน่ายหลักที่เป็นออฟไลน์ ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดิชันนัลเทรด มีรวมกันมากกว่า 10,000 จุดแล้ว
ล่าสุดจัดกิจกรรม โครงการประกวดวงดนตรีระดับมัธยมศึกษา โกลด์ซิตี้ ไทยแลนด์ แบนด์ น็อกเอาท์ 2561 คอนเซ็ปต์ เลตโก สายลุย ไม่คุย ให้เสียเวลา โดยใช้งบ 5 ล้านบาท มีทุนการศึกษาเป็นรางวัล ให้ผู้สนใจระดัมมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย จำกัดสมาชิกวงละไม่เกิน 12 คน อัดคลิปวิดีโอการแสดงสดส่งผลงานเข้ามาประกวด โดยมีทุนการศึกษา 200,000 บาท โดยผู้ชนะการประกวดได้รับทุนการศึกษา 100,000 บาท และมอบแก่โรงเรียน 100,000 บาท รวมทั้งการมอบรองเท้านักเรียนฟรีไปใส่กันทั้งโรงเรียน (การประกวดเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)
