ร.ฟ.ท.ปิ๊งไอเดียรถไฟท่องเที่ยวสาย “ไทยแลนด์ ริเวียร่า” เส้นทาง กรุงเทพฯ-สามร้อยยอด เน้นบริการด้วยรถหรู และทันสมัย ถกกรมท่องเที่ยวเล็งปรับโฉมรถสปรินเตอร์ และสถานีเพื่อเป็นจุดเช็กพอยต์ งบกว่า 200 ล้าน
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่การรถไฟฯ ได้เปิดรถไฟท่องเที่ยว เส้นทางกรุงเทพฯ- พัทยา-สัตหีบ (บ้านพลูตาหลวง) ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 61 (เสาร์-อาทิตย์) โดยใช้รถดีเซลรางปรับอากาศชั้น 2 จำนวน 3 ตู้ ผลตอบรับดีมาก มีประชาชนใช้บริการ Load Factor เฉลี่ย 95-100% คิดเป็นรายได้ประมาณ 979,200 บาทต่อเดือน ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมจุดท่องเที่ยว เช่น ศรีราชา, พัทยา, ตลาดน้ำ 4 ภาค, สวนนงนุช และภาคเอกชนท้องถิ่นร่วมมือกันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปได้ที่จะขยายการบริการหลังจากทดลองครบ 6 เดือนไปอีก
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะท่องเที่ยวเมืองรอง และโครงการ “ไทยแลนด์ ริเวียร่า” หรือถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย ตามนโยบายรัฐบาล ขณะนี้ ร.ฟ.ท.มีแผนเดินรถท่องเที่ยว เส้นทาง กรุงเทพฯ-สามร้อยยอด อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 280 กม. โดยได้หารือกับ นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ถึงความร่วมมือเบื้องต้น ซึ่งกรมการท่องเที่ยวจะจัดงบประมาณสนับสนุนโครงการ โดยอยู่ระหว่างประเมินตัวเลขในการดำเนินโครงการ
ในส่วนของ ร.ฟ.ท.นั้น เนื่องจากมองเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ รถไฟต้องมีความหรูหรา เป็นรถปรับอากาศและแบ่งที่นั่งบริการเป็น ชั้นหนึ่ง (First class) และชั้นธุรกิจ (Business Class) โดยมีแผนปรับปรุง 2 ส่วน คือ 1. ปรับปรุงรถสปรินเตอร์ จำนวน 2 ขบวน ขบวนละ6 ตู้ โดยปรับรูปโฉมด้านหน้ารถให้มีความทันสมัย ติดกระจกใหญ่เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถมองวิวสองข้างทางได้ชัดมากขึ้น ซึ่งประเมินงบปรับปรุงไว้ที่ 240 ล้านบาท 2. ปรับปรุงปลายทางที่สามร้อยยอด รวมถึงสถานีระหว่างทาง เช่น ราชบุรี เพชรบุรี เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ จุดเช็กพอยต์
“หลักการเห็นตรงกันแล้ว หลังจากนี้จะต้องพูดคุยในรายละเอียดเพิ่มเติม และงบประมาณที่กรมการท่องเที่ยวฯ จะจัดหามาให้ดำเนินการ ซึ่งเส้นทางนี้จะเป็นท่องเที่ยวโดยรถไฟหรู นอกจากนี้ยังต้องประสานความร่วมมือกับท้องถิ่นเพื่อจัดแหล่งท่องเที่ยวรองรับ และระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกในการเชื่อมต่อ รวมถึงประสานกับสายการบินในการทำการตลาดร่วมกันสำหรับบริการกรุ๊ปทัวร์”