xs
xsm
sm
md
lg

“นูสกิน” โหมช่องทางออนไลน์ ลดต้นทุน-ขยายฐานกลุ่มต่ำ 20 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางวิภาดา ตั้งปกรณ์ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นูสกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ ดร.ภคพรรณ ลีนุวุฒินันท์ (ขวา) ประธาน นู สกิน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้จัดการรายวัน 360 - “นูสกิน” ชูออนไลน์ขับเคลื่อนธุรกิจทั่วโลก ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค พร้อมช่วยลดต้นทุนลอจิสติกส์ สาขา และคลังสินค้า มั่นใจอนาคตยอดขายหลักจะมาจากออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 80-90% ปัจจุบันทยอยเกิน 40% ไปแล้ว ล่าสุดชูกลยุทธ์ 3Ps เสริมศักยภาพผู้แทนจำหน่าย พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มั่นใจถึงสิ้นปีทั่วโลกเติบโต 1-12%

ดร.ภคพรรณ ลีนุวุฒินันท์ ประธานนู สกิน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า นู สกินให้ความสำคัญและพัฒนาช่องทางออนไลน์ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต และไม่มองว่าเป็นเพียงช่องทางอีคอมเมิร์ซเท่านั้น ซึ่งพบว่าปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกมียอดขายจากออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 40% หรือสูงสุดตอนนี้ทำได้กว่า 80-90% ไปแล้วในกลุ่มประเทศแถบเอเชีย ส่วนในอเมริกาซึ่งเป็นบริษัทแม่ พบว่ามีสัดส่วนมากกว่า 40-50% ไปแล้วเช่นกัน

“ช่องทางออนไลน์ถือเป็นช่องทางหลักในการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ ซึ่งเป็นไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงจุด รวมถึงได้ฐานกลุ่มลูกค้าที่อายุลดลงมาเป็นกลุ่ม 20 ปีมากขึ้น แผนการรุกช่องทางออนไลน์เป็นส่วนสำคัญในการลดต้นทุนทางธุรกิจในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การขยายสาขาที่ไม่จำเป็นต้องเปิดให้เยอะอีกต่อไป รวมถึงด้านลอจิสติกส์ และคลังสินค้าเช่นกัน”
ดร.ภคพรรณ ลีนุวุฒินันท์ ประธาน นู สกิน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นางวิภาดา ตั้งปกรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นูสกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของประเทศไทย นอกจากให้ความสำคัญด้านออนไลน์ตามนโยบายโกลบอลแล้ว ปี 2561 นี้พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ 3Ps คือ 1. สินค้า ปีนี้จะมุ่งทำการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์บิวตี้แก็ดเจ็ต ล่าสุดเปิดตัว “เอจล็อก ลูมิสปา” นวัตกรรมทำความสะอาดผิวหน้าพร้อมบำรุงผิวหน้า 2. แพลตฟอร์ม เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยี “Me Commerce” ระบบที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ทำธุรกิจ และ 3. โปรแกรม กับแผนปันผลแบบใหม่ Velocity ซึ่งเป็นการปรับแผนในรอบ 10 ปีที่จะเอื้อต่อการเติบโต เริ่มใช้ ก.คนี้

นอกจากนี้ยังพร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านงาน Expo และ Virtual EXPO รวมถึงการอัดฉีดผู้แทนจำหน่ายผ่านโปรแกรมอินเซนทีฟทริป กับทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปีนี้ มั่นใจว่าถึงสิ้นปี นู สกิน ประเทศไทย จะมียอดสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 30,000 ราย จากปีก่อนมีกว่า 7 แสนราย รวมถึงมียอดขายรวมมาจากออนไลน์ถึง 60% จากปัจจุบันอยู่ที่ 50% และปีก่อนทำได้ 40% จากยอดขายรวมทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมรายได้นู สกิน ทั่วโลกปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 10-12% จากไตรมาสแรกปีนี้ทำได้แล้วกว่า 616 ล้านเหรียญสหรัฐ โต 24% และมีผู้ทำธุรกิจเพิ่มขึ้น16% ลูกค้าเพิ่มขึ้น 11% ขณะที่ภาพรวมของนู สกิน เซาท์อีสต์เอเชีย พบว่าไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมายอดขายโตขึ้น 12% ผู้ทำธุรกิจเพิ่มขึ้น 6% และลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 20% โดยยอดขายหลักมาจาก 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ส่วนเวียดนามเป็นประเทศที่เติบโตสูงสุด


กำลังโหลดความคิดเห็น