TVD เติบโตแข็งแกร่ง Q1/61 กำไรสุทธิ 14.32 ล้านบาท พร้อมโหมโฆษณาหนุนเติบโตครึ่งปีแรก
บมจ.ทีวี ไดเร็ค หรือ TVD โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 14.32 ล้านบาท และมีรายได้ 869.82 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน กลยุทธ์ใช้สื่อโฆษณาทีวีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องได้ผลเกินคาด อีกทั้งการปรับโมเดลธุรกิจใช้ Omni Channel Model หลอมรวมช่องทางขายสินค้าทุกช่องทาง ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ให้เป็นหนึ่งเดียว ตั้งเป้าครึ่งปีแรกโตต่อเนื่อง
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านทุกช่องทาง Omni Channel เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 (ม.ค.-มี.ค. 2561) ตามงบการเงินรวมสามารถกลับมาสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 14.32 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน โดยเป็นการกลับมามีกำไรสุทธิติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 896.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 847.19 ล้านบาท โดยที่การเติบโตส่วนใหญ่มาจากทีวีดิจิทัลและช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Mobile App
ปัจจัยการเติบโตในไตรมาสแรกที่ผ่านมา เกิดจากผลตอบรับที่ดีหลังจากบริษัทฯรุกใช้สื่อโฆษณา ทีวีดิจิทัลช่องต่างๆ ในช่วงเวลาที่หลากหลายนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมารวมถึงได้ปรับกลยุทธ์ใช้โมเดลธุรกิจแบบ Omni Channel เพื่อเชื่อมโยงการขายสินค้าทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ของทีวีไดเร็ค ทำให้ยอดขายสินค้าในกลุ่มต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ เพราะการเชื่อมโยงสร้างความสะดวกและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า
ยิ่งในด้านสินค้าแล้วนั้น TVD ได้เพิ่มสินค้าที่ช่วยแก้ไขปัญหาหรือเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิต และสินค้ากลุ่ม Health & Beauty (สุขภาพและความงาม) ที่บริษัทฯ มุ่งเพิ่มสัดส่วนการขายมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ส่งผลให้ภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ได้มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ โดยได้ปรับโครงสร้างการทำงานในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการจัดการและลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อนในรอบสามไตรมาส ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถลดสินค้าคงคลังได้กว่า 50% ส่งผลให้การเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง นอกจากนั้นได้ลงทุนปรับปรุงความเร็วในการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้รับได้ภายใน 24 ชั่วโมงได้สำเร็จ รวมถึงลดปริมาณการจัดส่งที่ผิดพลาดหรือจัดส่งไม่สำเร็จ ทำให้ลูกค้าพึงพอใจที่จะซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD กล่าวว่า การดำเนินงานในไตรมาส 2/61 จะใช้กลยุทธ์โฆษณาทางช่องทีวีดิจิทัลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะพิสูจน์ว่าได้ผลเป็นอย่างดีในการกระตุ้นความสนใจและเพิ่มปริมาณลูกค้าที่ติดต่อ ดังนั้นบริษัทฯ จึงตัดสินใจร่วมผลิตรายการกับช่อง Spring News ช่องทีวีดิจิทัลหมายเลข 19 ถือได้ว่าเป็นการผนึกกำลังที่จะส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย และผลที่ได้นับจากวันออกอากาศวันแรกวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้รับผลตามแผนงาน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบอีก 2-3 เดือนเพื่อให้การรับชมมีความเสถียรเพียงพอต่อการสร้างการตอบรับ
ทั้งนี้ เนื่องด้วย TVD ครบรอบ 19 ปีที่ได้รับใช้ประชาชนชาวไทย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในปรับตัวของบริษัทฯ อย่างดีในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้จัดแคมเปญใหญ่ 'TVD 19 ปี แจก 19 สัปดาห์' ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน - 31 สิงหาคม 2561 โดยจะมีการแจกรางวัลทุกสัปดาห์และในสัปดาห์สุดท้ายมีรางวัลรถยนต์อีกด้วย โดยผลของแคมเปญนี้สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 6% ในภาพรวมจนถึงวันนี้
ส่วนการดำเนินงานของบริษัทในเครือก็มีความคืบหน้าทุกบริษัท โดย TVD ได้แบ่งกลุ่มบริษัทออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 เป็นบริษัทที่มีความเกี่ยวเนื่องกันโดยตรง ได้แก่ บริษัท ทีวีดี โมโม่ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจโฮมชอปปิ้ง เตรียม Launch แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการโมดิฟายและอัปเกรดจากทีมออนไลน์ไต้หวันที่สร้างความสำเร็จขึ้นเป็น Online Application ใหญ่ที่สุดในประเทศไต้หวัน เชื่อได้ว่าจะส่งผลเพิ่มโอกาสการขายได้อย่างแน่นอน
บริษัท ทีวีดี โบรกเกอร์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัย เตรียมทำรายการขายประกันและ Financial Products ผ่านจาก Spring News โดยมีพันธมิตรบริษัทประกันภัยต่างๆ เข้าร่วมหลายราย บริษัท ลาสไมล์ ไดเร็ค จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจจัดส่งสินค้า มีแผนขยายจุดให้บริการลูกค้า เปิดธุรกิจ C2C เพื่อส่งสินค้าในระดับบุคคลต่อบุคคล และพร้อมรับงานแบบ B2C ได้ตามแผนงาน บริษัท ทีวีดี เซอร์วิส จำกัด ที่ให้บริการ Business Support ทั้งภายในและภายนอกกลุ่มบริษัท TVD ก็ให้บริการด้วย 3rd Payroll Services, NLP Training และเตรียมให้บริการรับทำบัญชีอีกด้วย
กลุ่มที่ 2 เป็นบริษัทที่ลงทุนเพื่ออนาคต ได้แก่ บริษัท ทรี-อาร์ดี จำกัด (3-RD) ที่ดำเนินธุรกิจ BPO
(Business Process Outsourcing) หลังจากที่พาร์ทเนอร์จากประเทศเกาหลีเข้ามาถือหุ้นใหญ่ก็ได้ลงมือพัฒนา Food Ordering Application Platform ที่ประสบความสำเร็จจากประเทศเกาหลีกับบริษัท Kakoa ซึ่งเป็น Social Chat ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี อีกทั้งบริษัทน้องใหม่อย่างบริษัท เมจิก พีวอท จำกัด (Magik Pivot) ที่ให้บริการ ISP และ DATACENTER ก็ทำกำไรได้ตั้งแต่เดือนแรกที่ดำเนินงานและมี Backlog ขนาดใหญ่อีก 2 โครงการ ตลอดจนการเตรียมลงทุนในธุรกิจผลิตซอฟท์แวร์ ต้นน้ำอีกด้วย
ดังนั้น ภาพรวมของ ทีวีไดเร็ค จึงมีความพร้อมผลักดันผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและกำไรได้ตามแผนงานที่วางไว้