“พาณิชย์” จับมือสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เดินสายพบหน่วยงานนำเข้าข้าวของมาเลเซียและอินโดนีเซีย เผยปีนี้มีแนวโน้มนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะมีตลาดรองรับ พร้อมใช้โอกาสนี้ผลักดันข้าวคุณลักษณะพิเศษ ทั้งข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด และกข 43 เจาะตลาดคนรักสุขภาพ หลังพบตลาดต้องการสูงมาก
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7-9 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้นำสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยพร้อมสมาชิกเดินทางไปเยือนหน่วยงานจัดซื้อข้าวแห่งชาติของมาเลเซีย (BERNAS) และองค์กรสำรองอาหารแห่งอินโดนีเซีย (BULOG) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ข้าว และหาโอกาสในการขยายการส่งออกข้าวไทยทั้งในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) และรัฐบาลต่อเอกชน (G to P) ไปยังสองประเทศ โดยถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะทราบว่าทั้งสองประเทศยังคงมีความต้องการซื้อข้าว และคาดว่าในปีนี้ ทั้งสองประเทศจะนำเข้าข้าวไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งสัญญาณเชิงบวกต่อข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาด และรักษาระดับราคาข้าวไทยให้มีเสถียรภาพในระยะยาวได้
ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้ใช้โอกาสในการเดินทางไปครั้งนี้ เข้าพบปะหารือกับบริษัท Jasmine Food Corporation Sdn Bhd และบริษัท YHL Holding Sdn Bhd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BERNAS ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายข้าวไทยภายใต้ชื่อยี่ห้อต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักดีในมาเลเซีย เช่น Royal Umbrella หรือข้าวตราฉัตร, Sunflower, Sakura และ Saga ซึ่งจากการหารือพบข้อมูลที่น่าสนใจว่าผู้บริโภคในมาเลเซียให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้น โดยกรมฯ ได้แนะนำข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวหอมนิล และข้าวสังข์หยด รวมทั้งข้าวพันธุ์ กข 43 ซึ่งเป็นการตอบโจทย์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคข้าวที่รักสุขภาพ สนใจบริโภคข้าวที่ให้น้ำตาลต่ำ และเป็นจุดขายที่ไทยกำลังมุ่งอยู่ในขณะนี้จึงได้รับความสนใจที่จะนำเข้าเพิ่มขึ้น
“ทั้งสองบริษัทได้ขอให้ไทยสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ข้าวชนิดต่างๆ ของไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในตลาดมาเลเซียเพิ่มขึ้น เช่น การจัด In-store Promotion ในซูเปอร์มาเกตชั้นนำ โดยกรมฯ จะประสานและร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการดำเนินการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดมาเลเซียต่อไป”
ส่วนในตลาดอินโดนีเซีย แม้ชาวอินโดนีเซียจะบริโภคข้าวขาวเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มที่ผู้บริโภคอินโดนีเซียหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้ส่งออกข้าวไทยจะสามารถขยายตลาดข้าวลักษณะพิเศษที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีดัชนีน้ำตาลต่ำในตลาดอินโดนีเซียได้เช่นกัน ซึ่งกรมฯ จะร่วมมือกับผู้ส่งออกทำการขยายตลาดข้าวในส่วนนี้ให้เพิ่มขึ้นด้วย