คมนาคมสั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรัมมือเปิดเทอม กำชับ 8 มาตรการเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทาง ขสมก.เพิ่มเที่ยววิ่งเส้นทางผ่านโรงเรียน ทล.-ทช.จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกหน้าเขตโรงเรียน แอร์พอร์ตลิงก์ตรวจสภาพรถต้องให้บริการครบ 7 ขบวน และเพื่อรับช่วงเปิดเรียนของมหาวิทยาลัยในเดือน มิ.ย.ด้วย
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายในการเตรียมพร้อมรับมือเปิดภาคเรียนประจำปีการศึกษา 2561 ในวันอังคารที่ 15 พฤษภาคม 2561 โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกและบริการอย่างพร้อมเพรียง ตามแนวนโยบาย One Transport, One Family ที่เน้นความปลอดภัยให้แก่เด็กและผู้ปกครอง ความเพียงพอของระบบขนส่งสาธารณะ และการอำนวยความสะดวกจราจรในโครงข่ายคมนาคมของกระทรวงคมนาคม โดยมอบหมายหน่วยงานดำเนินการ 8 มาตรการ ดังนี้
1. ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพิ่มจำนวนรถและเที่ยววิ่งในเส้นทางที่ผ่านโรงเรียน สถานศึกษา ในวันธรรมดาจำนวน 21,928 เที่ยวต่อวัน และกำกับพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด จอดเทียบป้ายและชิดฟุตปาธ และดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารและเด็กนักเรียน
2. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดผู้ตรวจการคอยกำกับดูแลความเรียบร้อยในบริเวณป้ายรถประจำทางใหญ่ เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หมอชิต วงเวียนใหญ่ เป็นต้น รวมทั้งบริเวณโรงเรียน และสถานศึกษาที่มีการจราจรหนาแน่น และป้องกันไม่ให้รถแท็กซี่และจักรยานยนต์รับจ้างเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน และกวดขันความเร็ว จำนวนบรรทุก และความปลอดภัยของรถตู้ที่วิ่งระหว่างจังหวัด
3. ในต่างจังหวัด ให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และสำนักงานขนส่งจังหวัด ร่วมกับตำรวจจราจรท้องที่อำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนในเขตเมืองและเทศบาลในเขตความรับผิดชอบเพื่อลดความคับคั่งของการจราจรโดยเฉพาะผู้ปกครองที่ขับรถมาส่งบุตรหลาน ทั้งนี้ ในพื้นที่ถนนของแขวงทางหลวง แขวงทางหลวงชนบท ที่มีโรงเรียนตั้งอยู่ในเส้นทาง ให้เขตและแขวงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกับโรงเรียนในการอำนวยความสะดวกการจราจรและความปลอดภัยแก่เด็กนักเรียน
ทั้งนี้ ให้พิจารณาโรงเรียนที่จะเข้าร่วมอำนวยความสะดวกตามความเหมาะสมกับกำลังเจ้าหน้าที่ โดยให้เดินตาม “นโยบายถนนปลอดภัยหน้าโรงเรียน” อย่างเคร่งครัด
4. ขบ. และสำนักงานขนส่งจังหวัดเข้มงวดรถโรงเรียนและรถรับจ้างเอกชนทุกประเภทให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวง กฎจราจร อย่างเข้มงวด ทั้งจำนวนบรรทุก ความปลอดภัยของตัวรถ โดยเฉพาะจำนวนบรรทุกเด็กนักเรียนที่มากเกินจนอาจเกิดอันตราย และให้ระงับการใช้รถหากตรวจสภาพรถไม่ผ่าน โดยเฉพาะรถนักเรียนสองแถวทั้งรถกระบะและรถหกล้อ
5. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) จัดเดินรถไฟฟ้าให้เพียงพอ และอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในชั่วโมงเร่งด่วน และให้คำแนะนำในการเดินทางของเด็กนักเรียนที่ยังไม่คุ้นเคยเส้นทางต่างๆ
ทั้งนี้ ในส่วนของ รฟม. จัดระบบการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายคือ สายสีเขียว สายสีส้มตะวันออก สายสีชมพู สายสีเหลือง โดยให้ข้อมูลเส้นทางเบี่ยงการจราจรผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง โดยขอความร่วมมือสถานีวิทยุโทรทัศน์และวิทยุจราจร
สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลิงก์ ให้ตรวจเช็กรถทุกขบวนให้สามารถพร้อมให้บริการได้ครบ 7 ขบวนเพื่อรองรับจำนวนที่จะเพิ่มจากช่วงปิดเทอมอีกประมาณไม่น้อยกว่า 5,000 คน และเตรียมรับในช่วงเปิดเรียนของมหาวิทยาลัยในเดือนมิถุนายน
6. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ทล. ตำรวจทางหลวง ดูโครงข่ายทางด่วน มอเตอร์เวย์ ขาเข้าในช่วงเช้า ขาออกในช่วงเย็น ให้มีความคล่องตัวมากที่สุด รวมทั้งทางหลวงแผ่นดินในเมืองใหญ่ ทล. ทช. ดูถนนให้พร้อมใช้ ไม่ให้มีหลุมบ่อ และหากเกิดพายุฝนทำให้ต้นไม้โค่น ดินสไลด์ ให้แก้ไขซ่อมแซมให้เสร็จภายใน 24 ชั่วโมง ไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของเด็กนักเรียน
7. กรมเจ้าท่า จัดผู้ตรวจการประจำท่าเรือทุกท่าเรือทั้งท่าเรือในกรุงเทพฯ ทั้งท่าเรือแม่น้ำและท่าเรือคลองแสนแสบ คลองลาดพร้าว และคลองอื่นๆ รวมทั้งท่าเรือต่างจังหวัด โดยกำกับดูแลความปลอดภัยของเรือโดยสารไม่ให้บรรทุกผู้โดยสารเกินซึ่งจะมีเด็กนักเรียนเพิ่มเข้ามาอีกจำนวนมาก รวมทั้งความมั่นคงแข็งแรงของท่าเรือและโป๊ะเรือ รวมทั้งสำรองเรือโดยสารเพิ่มเติมในกรณีผู้โดยสารมีมากกว่าปกติ
8. บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และกรมท่าอากาศยาน อำนวยความสะดวกการเดินทางของเด็กนักเรียนที่เดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ โดยให้คำแนะนำสำหรับเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจจะยังไม่คุ้นเคยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า เรือโดยสาร เป็นต้น