ผู้จัดการรายวัน 360 - “โคโดโม” ปรับกลยุทธ์ตลาด ดันสินค้าเจาะตลาดคนทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัย รองรับตลาดซบเซาเหตุเด็กแรกเกิดหดตัวลง เกิดน้อยลง รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ดีกระทบกำลังซื้อ เร่งขยายฐานตลาด เพิ่มงบตลาดปีนี้เป็น 600 ล้านบาท หวังดันยอดขายสู่ 2,000 ล้านบาท โต 20%
นางสาวสายพิณ ประจงพงศ์พันธุ์ รักษาการรองผู้จัดการบริหารธุรกิจสหพัฒน์ ผลิตภัณฑ์สินค้าส่วนบุคคล บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายฐานกลุ่มลูกค้าผลิตภัณฑ์ของแบรนด์โคโดโมที่มีอยู่ทั้งหมดให้กว้างขึ้นจากเดิมที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 12 ปีเท่านั้น โดยคอนเซ็ปต์การทำตลาดใหม่นี้จะใช้นโยบายที่จะทำตลาดสินค้าโคโดโม 1 ชิ้นให้ผู้บริโภครับรู้ว่าสามารถที่จะได้กับทุกคนในครอบครับและทุกช่วงวัย
เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดรวมผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเด็กโดยเฉพาะเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 12 ปี เริ่มมีอัตราการเติบโตที่ลดลง ตลาดรวมเริ่มอิ่มตัว ซึ่งเหตุผลหลักมาจากสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีและส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของพ่อแม่ทำให้การซื้อลดลง รวมทั้งปัญหาที่เด็กเกิดใหม่ในขณะนี้มีอัตราที่ลดน้อยลงด้วยเช่นกัน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำตลาดผลิตภัณฑ์เด็กทารก
ทั้งนี้ ตามแผนงานในปี 2561 นี้ บริษัทฯ วางงบประมาณด้านการตลาดไว้ที่ 600 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ประมาณ 400- 500 ล้านบาท เพื่อรุกทำการตลาดเต็มที่ ทั้งในแง่ของการทำโปรโมชัน การจัดกิจกรรมและการร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายฐานตลาด โดยตั้งเป้าหมายที่จะสร้างยอดขายรวมโคโดโมในปี 2561 นี้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 20%
ส่วนในแง่ของผลิตภัณฑ์ มีแผนที่จะเตรียมการสร้างการรับรู้ต่อผู้บริโภคว่าสินค้าโคโดโม เป็นสินค้าเด็กที่คนทุกช่วงวัยและทุกเพศสามารถที่จะใช้ได้เช่นกัน มีความปลอดภัย ไม่แพ้ง่าย และไม่ระคายเคืองต่อสภาพผิว รวมทั้งการเตรียมที่จะจัดแคมเปญต่างๆ และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องทั้งปี
ล่าสุดคือ การจัดแคมเปญ “ลุ้นโชคตะลุยโลกล้านปี เยือนถิ่นไดโนเสาร์กับโคโดโม” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ต้องการให้เด็กๆ ได้เปิดโลกกว้างในการผจญภัยและเรียนรู้อย่างสมวัยตามเป้าหมายของแบรนด์โคโดโม รวมทั้งการร่วมมือกับทางโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ในลักษณะเป็นเหมือนเนมมิ่งสปอนเซอร์ (Naming Sponsor) ในการเปิดตัวโรงภาพยนตร์เด็กแห่งแรกที่ชื่อว่า โคโดโม คิดส์ ซินีม่า ที่เมกาบางนา
ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดต่อเนื่องเช่นกัน คาดว่าในปีนี้จะมีสินค้าใหม่วางตลาดอย่างน้อย 3 รายการ ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์ในช่องปาก
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์แบรนด์โคโดโมทั้งหมดมีหลายกลุ่ม แยกเป็น 1. กลุ่มของใช้ส่วนบุคคล คือ แป้งเด็ก โลชั่น สบู่เหลว และยาสระผม มีสัดส่วนยอดขายมากที่สุดคือ 40% ซึ่งปีที่แล้วกลุ่มนี้มียอดรวมเติบโตมากถึง 50% เพราะการออกสผลิตภัณฑ์ใหม่ 2. กลุ่มของใช้ภายในบ้าน คือ น้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่น สัดส่วนยอดขาย 30% และ 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ในช่องปาก มีสัดส่วนยอดขาย 30% ซึ่งกลุ่มนี้ที่เติบโตมากคือยาสีฟัน ทั้งนี้ แบรนด์โคโดโมเป็นผู้นำตลาดรวมเด็กด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 60%