“กรอ.” รุดสอบโรงงานผลิตเครื่องสำอาง จ.ปทุมธานี หากไม่มี รง.4 สั่งปิดแน่

กรมโรงงานอุตสาหกรรมสั่งตรวจสอบโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่จังหวัดปทุมธานี หากไม่พบว่ามีใบอนุญาต รง.4 จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม 2535 พร้อมดีเดย์ 1 พ.ค.ใช้ระบบ E-license และ Auto E-license บริหารจัดการกากอุตสาหกรรม

นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวถึงกรณีโรงงานผลิตเครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานที่ตกเป็นข่าวที่จังหวัดปทุมธานี ว่า ทาง กรอ.ประสานงานไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปทุมธานีให้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วว่าโรงงานผลิตเครื่องสำอางดังกล่าวเข้าข่ายเป็นโรงงานที่ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการ (รง.4) จากกรมโรงงานหรือไม่ หากต้องมี รง.4 แต่ทางโรงงานไม่มี รง.4 ก็จะดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม พ.ศ. 2535 ต่อไป

“กรอ.และสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจโรงงานที่เข้าตามเกณฑ์ต้องขอใบอนุญาต รง.4 คือ มีเครื่องจักร 5 แรงม้า คนงานตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป ปีละ 35,000 โรง ซึ่งทางโรงงานผู้ผลิตเครื่องสำอางก็เช่นกันหากไม่มีใบอนุญาตตั้งโรงงานอย่างถูกต้องก็จะมีความผิด” นายมงคลกล่าว

นายมงคลกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ กรอ.จะนำระบบ E-license และ Auto E-license มาใช้ในการดูแลการจัดการกากอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำครบวงจร ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีการยื่นคำขอมายังกรมโรงงานแล้ว 34,000 รายการ และจากการนำร่องทดสอบระบบมีการเข้าสู่ระบบ E-license และ Auto E-license แล้วคิดเป็น 10% สามารถอนุมัติคำขอได้ภายใน 3 วินาที

ทั้งนี้ กรอ.คาดว่ากากขยะอุตสาหกรรมจากในปริมาณทั้งหมดกว่า 24 ล้านตัน ตามตัวชี้วัดปีงบประมาณ 2561 จะสามารถเข้าระบบได้มากขึ้น จากปัจจุบันเข้าระบบแล้วกว่า 9 ล้านตัน นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าจะเพิ่มปริมาณผู้ประกอบการที่รับกำจัดกากชั้นดีเพิ่มขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบสามารถคัดเลือกตามความเหมาะสมของประเภทกากขยะ และเพิ่มโอกาสและทางเลือกให้ผู้ก่อกำเนิดของเสียได้ต่อไป