ขสมก.เร่งวิเคราะห์คำสั่งศาลปกครองกลาง ยืนยันไม่หยุดวิ่งบริการรถเมล์ NGV 100 คันแรก “อาคม” เผย ขสมก.ต้องหารืออัยการ เพื่อยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ทั้งกรณี คำสั่งทุเลามติบอร์ดและชดใช้ค่าเสียหาย “เบสท์ริน” กว่า 1 พันล้าน ขณะที่ รถล็อตที่ 2 จำนวน 100 คันกำหนดส่งมอบ 26 เม.ย. ขสมก.ต้องกู้เงินจ่ายค่ารถโดยคลังค้ำประกัน หากยังติดคดีฟ้องร้องส่อมีปัญหาต้องชะลอหรือไม่
จากกรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561 คุ้มครองชั่วคราว หยุดการซื้อขาย รถเมล์ NGV 489 คัน วงเงิน 4,261 ล้านบาท หลังพิจารณามติคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด ) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.และ วันที่ 20 ธ.ค. 60 ที่อนุมัติซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซม และบำรุงรถโดยสาร 489 คัน จาก กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของบอร์ด ขสมก.โดยไม่ให้ ขสมก.และบอร์ดนำมติดังกล่าวไปดำเนินการใดๆ ที่มีผลผูกพันเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
และกรณีคำสั่งศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 502,955/2560 เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561มีคำสั่ง ให้ ขสมก. (ผู้ถูกฟ้องคดี) ชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากการผิดสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศ NGV ตามสัญญาเลขที่ ร.50/2559 ลงวันที่ 30 กันยายน 2559 รวมเป็นเงิน1,159,969,552.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้แก่บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด กับพวกรวม 4 ราย ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขสมก.ได้รายงานด้วยวาจาถึงกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งใน 2 ประเด็นดังกล่าวแล้ว เบื้องต้น ขสมก.จะมีการตรวจสอบรายละเอียดและวิเคราะห์ของคำสั่งศาลให้ชัดเจนก่อน เนื่องจาก คำสั่งศาลปกครองกับผู้แถลงคดี อาจจะยังไม่สอดคล้องกัน และจะต้องหารือกับอัยการในการเดินหน้าต่ออย่างไร ซึ่งขสมก.มีเวลาในการยื่นอุทธรณ์ 30 วันนับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง โดยขสมก.จะยื่นอุทธรณ์ในทั้ง 2 กรณี
ทั้งนี้ ขสมก.จะต้องดูคำสั่งศาลให้ชัดเจนว่ามีรายละเอียดที่เกี่ยวกับสัญญาการ ซื้อขายรถรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ที่ได้ทำสัญญากับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO” โดยมีบริษัท ช. ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกนอินเตอร์ จำกัด (มหาชน) อย่างไร เนื่องจาก ขสมก.ได้ทำสัญญาและได้เดินหน้ารับมอบรถ100 คันนำมาให้บริการประชาชนไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ รถเมล์ NGV ดังกล่าวจะยังคงให้บริการประชาชนต่อไป
“ตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะ ขสมก.ต้องวิเคราะห์คำสั่งศาลให้ชัดเจนก่อน ซึ่งขสมก.เชื่อมั่นในการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ว่าถูกต้องตามระเบียบ และได้ยึดประชาชนเป็นหลัก ขณะเดียวกัน เมื่อสัญญาได้เดินไปแล้ว ขสมก.จะต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นปัญหาอีกด้านหนึ่งได้ ”นายอาคมกล่าว
ส่วนกรณีที่ นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก.ได้ลาออก นั้น การจะตั้งบอร์ดชุดใหม่ จะต้องพิจารณา บุคคลที่มีคุณสมบัติและคณะกรรมการ ขสมก.จะต้องดูองค์ประกอบที่มีความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ตามสัญญาระหว่าง ขสมก. กับ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO นั้น กำหนดแผนส่งมอบรถเมล์ NGV1 ล็อตที่2 จำนวน 100 คัน ภายในวันที่ 26 เม.ย. 2561 นี้ ดังนั้นกรณีที่ ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของบอร์ด ขสมก.จะทำให้ต้องชะลอการส่งมอบหรือไม่นั้น นายอาคมกล่าวว่า จะต้องรอ ขสมก.พิจารณาคำสั่งศาลโดยละเอียดก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า รถล็อตที่ 2 อาจจะไม่สามารถรับมอบได้ หากยังติดปัญหาข้อพิพาทและศาลมีคำสั่งดังกล่าว ถือว่าส่งผลกระทบต่อการรับมอบรถโดยตรง ขณะที่ขสมก.จะต้องจ่ายเงินเมื่อมีการส่งมอบรถ ในล็อตที่ 2 จำนวน 100 คัน เป็นเงินกว่า 380 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะต้องค้ำประกันเงินกู้