“พาณิชย์” จัดงานแฟร์ออร์แกนิก โชว์ไทยฮับเกษตรอินทรีย์อาเซียน

“พาณิชย์” จับมือ BIOFACH ผู้จัดงานแสดงสินค้าออร์แกนิกระดับโลก เตรียมจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์และสินค้าธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วันที่ 12-15 ก.ค.นี้ โชว์ศักยภาพไทยศูนย์กลางการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ในอาเซียน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปีนี้กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับบริษัท NürnbergMesse จำกัด (NM) ซึ่งเป็นผู้จัดงาน BIOFACH ที่เป็นงานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในโลก ร่วมกันจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าอินทรีย์และสินค้าธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่องาน Organic Expo - BIOFACH Southeast Asia และ NATURAL EXPO Southeast Asia ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ค. 2561 ที่อิมแพค เมืองทองธานี

“การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยยกระดับการจัดงานของไทยเข้าสู่มาตรฐานสากล และช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในอาเซียน เพราะ NM จะมีการเชิญชวนผู้ประกอบการต่างชาตินอกภูมิภาคอาเซียนให้เข้ามาร่วมจัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจภายในงาน โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้ซื้อต่างประเทศเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีการตื่นตัว จากการได้เห็นการพัฒนาสินค้า การพัฒนามาตรฐาน ที่จะส่งผลดีต่อการนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลกต่อไป” นายสนธิรัตน์กล่าว

น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ไทยได้จัดงาน Organic Expo ต่อเนื่องมาแล้ว 7 ปี เป็นการจัดงานในระดับภูมิภาค แต่หลังจากที่กรมฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับ NM ที่เป็นผู้จัดงาน BIOFACH ทำให้เกิดความร่วมมือในการจัดงานให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก โดยใช้จุดแข็งที่แต่ละฝ่ายมี โดย NM มีจุดแข็งในการจัดงานและรู้จักผู้ประกอบการต่างชาติทั่วโลก สามารถดึงเข้ามาจัดแสดงและเข้าร่วมเจรจาธุรกิจในงานที่ไทยจัดได้ ส่วนไทยมีจุดแข็งในฐานะผู้นำด้านสินค้าออร์แกนิกในอาเซียน สามารถดึงผู้ประกอบการในอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาร่วมงานได้

สำหรับการจัดงานในปีนี้ กรมฯ มั่นใจว่าจะสามารถเปิดตัวผู้ผลิตสินค้าอินทรีย์ไทยออกสู่ตลาดโลกได้เพิ่มมากขึ้น คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมจัดงานแสดงสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีบูธผู้ผลิตสินค้าอินทรีย์ของไทยที่ได้มาตรฐานสากลเข้าร่วมงาน 100 กว่าบูท เพิ่มจากก่อนหน้านี้ที่มีเพียง 70 บูท และยังจะเชิญชวนให้ผู้ประกอบการในอาเซียนมาเข้าร่วมงานด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการจาก CLMV ที่ไทยมีความร่วมมือกันอยู่

“การจัดงาน ไม่เพียงแต่เป็นการโชว์ความพร้อมในการเป็นฮับของไทย เพราะไทยมีความพร้อมทั้งในแง่นโยบายรัฐ ที่มีการส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าอินทรีย์ และมีเป้าหมายอย่างชัดเจน แต่ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่การผลิตสินค้าอินทรีย์ในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะมีการเติบโตไปพร้อมๆ กัน” น.ส.สุทัศนีย์กล่าว