“ศิริ” มอบ “สนพ.” ประสานงานโรงกลั่นเตรียมพร้อมสรุปปรับโครงสร้างราคา ยกเลิกบวกค่าพรีเมียมให้สะท้อนราคาตลาดสากลเท่านั้น หวังลดต้นทุนราคาน้ำมันที่จะสะท้อนไปยังราคาขายปลีกให้ลดลงได้ เตรียม “กบง.” ประกาศ 5 เม.ย.นี้
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กบง.ได้มีแนวคิดพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงหน้าโรงกลั่นที่จะสะท้อนไปยังราคาขายปลีก โดย กบง.มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ไปศึกษาข้อมูลและประสานงานกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะโรงกลั่นน้ำมันให้ชัดเจนเพื่อนำกลับมาหารือใหม่ในการประชุม กบง.ครั้งหน้าวันที่ 5 เม.ย.นี้ โดยแนวทางดังกล่าวคาดว่าจะเกิดประโยชน์แก่ผู้บริโภคที่ราคาขายปลีกน้ำมันจะลดลงได้
“กบง.ครั้งนี้ได้หารือแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมอบให้ สนพ.ไปประสานกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในการนำกลับมาหารืออีกครั้ง 5 เม.ย.นี้ และจะประกาศให้เป็นผลเลย โดยแนวคิดนี้ปัจจัยสำคัญมาจากตลาดการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงตลาดโลกมีการเปลี่ยนแปลงที่ไทยอ้างอิงชัดเจนก็จะปรับโครงสร้างอ้างอิงที่เดิมคิดหน้าโรงกลั่นตลาดสากล (สิงคโปร์) บวกด้วยพรีเมียม เช่น ค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งเราจะยกเลิกการบวกด้วยพรีเมียมออกไปด้วยการปรับโครงสร้างการคำนวณใหม่” นายศิริกล่าว
นอกจากนี้ กบง.ยังได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 (EEP 2015) โดยความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผน EEP 2015 ณ ปัจจุบัน (ไม่รวมมาตรการภาคขนส่ง) ซึ่งมีเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงาน ปี พ.ศ. 2560 อยู่ที่ 703 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe) โดยกระทรวงพลังงานได้ดำเนินมาตรการหลักภายใต้แผน EEP 2015 ซึ่งมีผลการอนุรักษ์พลังงานถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2560 คิดเป็นผลรวมประมาณ 713.42 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 101.48 ของเป้าหมายปี พ.ศ. 2560 ส่วนมาตรการการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่ง (EE7) ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการ ECO-Sticker ที่จำนวนรถใหม่ยังไม่เป็นไปตามเป้า และกรณีของการขนส่งระบบราง โดยเฉพาะรถไฟรางคู่ การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงยังไม่มีการรับรู้ผลประหยัดพลังงาน
