สรรหารองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ร้อนระอุ หลังกลุ่มสหภาพรักความเป็นธรรม ยื่น “อาคม-ไพรินทร์” ทบทวนด่วน เหตุมีผู้สมัครบางรายคุณสมบัติมีปัญหา มีพฤติกรรมทำผิดระเบียบรถไฟ และติดคดีอาญา ขณะที่ กก.สรรหาฯส่อละเว้นไม่ตรวจสอบ เข้าข่ายเอื้อประโยชน์กัน ด้าน “อานนท์” ยันทำตามระเบียบ ชงบอร์ด พิจารณาผลวันนี้ (16 มี.ค.) พร้อมทำตามมติ หวั่นยกเลิกถูกฟ้องร้องได้
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า จากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกรองผู้ว่าการฯ 2 ตำแหน่ง คือ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน และรองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้านั้น คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกที่มีนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เป็นประธานและมีรองผู้ว่าฯ ที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันอีก 5 คนเป็นกรรมการ ได้เตรียมนำเสนอผลการคัดสรรต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.แล้วนั้น
ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2561 กลุ่มสหภาพรักความเป็นธรรมได้ยื่นหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายไพรินทร์ ชูโชตถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้ทบทวนการสรรหารองผู้ว่าการฯ โดยระบุว่า คณะกรรมการสรรหาฯส่อสมคบร่วมกันละเว้นไม่ตรวจสอบ คุณสมบัติของผู้สมัครฯ ตามระเบียบ กพ.ที่ นร.๐๗๐๘.๑/ว๒๒ ลงวันที่ 30 ก.ย. 2550 โดยระบุว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คณะกรรมการคัดเลือกไม่ปฏิบัติในขั้นตอนการเลือกสรรกลั่นกรองหรือไม่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครบางราย
ทั้งนี้มี ผู้สมัครที่เข้าข่ายส่อไม่ผ่านคุณสมบัติรายหนึ่ง กรณีเคยเป็นโจทย์ยื่นฟ้องคณะกรรมการตรวจสอบภายในการรถไฟฯ ซึ่งมีรายละเอียดคดีหมายเลขดำที่ อ.๑๕๒๖/๒๕๔๖ และคดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๙๔๑/๒๕๖๐ เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท ซึ่งที่สุดศาลมีคำพิพากษา เมื่อ 4 ก.ค. 2560 ยกฟ้อง ซึ่งทำให้ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการตรวจสอบการรถไฟฯ เป็นจริง และส่งผลต่อคุณสมบัติของผู้สมัครดังกล่าว
ทั้งนี้ ยังมีคณะกรรมการสรรหาฯบางคนอาจเข้าข่ายมีผลประโยชน์ร่วมกับผู้สมัครบางราย กรณีที่มีการสนับสนุนการจัดตั้งมูลนิธิรถไฟไทย ที่ส่อผิดระเบียบการรถไฟฯ เนื่องจากมีการมอบเงินจำนวน 3.8 ล้านบาทจากบัญชีโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์การรถไฟฯ ให้แก่มูลนิธิรถไฟไทย ซึ่งเป็นของเอกชน 100% โดยไม่ปฏิบัติตามมติบอร์ดการรถไฟฯ ที่ให้อำนาจผู้ว่าฯ รถไฟ สนับสนุนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การสาธารณกุศล หรือบุคคลอื่นวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท
นอกจากนี้ ผู้สมัครบางรายยังติดการดำเนินคดีอาญาข้อหาความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีผลต่อคุณสมบัติ ซึ่งตามคำสั่งทั่วไปการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ บภบ.๑๓๖/๒๕๐๒ ข้อ 1 ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติงานรถไฟ ถูกสอบสวนว่ากระทำผิดวินัย (ทางปกครอง) หรือถูกสอบสวนดำเนินคดี (ทางอาญา) ให้รายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ ได้ดำเนินการตามระเบียบและนำหลักเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติและเกณฑ์ให้คะแนนบางส่วนมาจากการคัดสรรผู้บริหารของกระทรวงคมนาคม ระดับรองอธิบดี ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนในประเด็นที่ผู้สมัครบางรายถูกสอบสวนนั้น เบื้องต้นได้ให้ฝ่ายบุคคลของรถไฟฯ ตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา สามารถสมัครได้ อีกทั้ง เป็นขั้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่มีการชี้มูลค่าผิด และไม่ได้ถูกสอบทางวินัย จึงไม่มีผลต่อการพิจารณา ซึ่งจะนำเสนอผลการคัดเลือกพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวช้อง ต่อที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. วันนี้ (16 มี.ค.) ซึ่งขึ้นกับบอร์ดว่าจะพิจารณาอย่างไร
“ผมก็หนักใจ แต่ได้ทำตามระเบียบและมีการตรวจสอบว่าทำได้ ยอมรับว่าเรื่องคัดสรรรองผู้ว่าฯ ครั้งก่อนหน้าก็มีการฟ้องร้องกัน ครั้งนี้ได้พยายามรอบคอบที่สุด กรณีที่จะให้ยกเลิก อาจจะมีผู้สมัครบางรายฟ้องร้องได้อีก คงต้องฟังบอร์ดก่อน” นายอานนท์กล่าว