กบง.มีมติปรับลดเงินชดเชยราคา LPG 63.30 สตางค์ต่อกิโลกรัม โดยไม่ลดราคาขายปลีกตามราคาโลกที่ลดลงเพื่อลดภาระการชดเชยของกองทุนฯ ส่งผลราคาขายปลีกยังคงเดิมที่ 19.82 บาทต่อกิโลกรัม
วันนี้ (12 มีนาคม 2561) ที่กระทรวงพลังงาน ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และที่ประชุม กบง.มีมติปรับลดอัตราเงินชดเชยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 0.6330 บาทต่อกิโลกรัม จาก -3.3754 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ -2.7424 บาทต่อกิโลกรัม
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานโยบายและแผนพลังงาน เผยถึงผลการประชุม กบง.ว่า จากสถานการณ์ราคา LPG ตลาดโลก ในช่วง 5-9 มีนาคม 2561 ลดลงมาอยู่ที่ 448.10 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 16.00 เหรียญสหรัฐต่อตัน และอัตราแลกเปลี่ยนได้แข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.0325 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ 31.5303 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ที่ประชุม กบง.มีมติให้ปรับลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลง 0.6330 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่กองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ -3.3754 บาทต่อกิโลกรัม เป็นชดเชย -2.7424 บาทต่อกิโลกรัม ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกก๊าซ LPG และราคาขายปลีกยังคงเดิมอยู่ที่ 19.82 บาทต่อกิโลกรัม และผลจากการปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าวทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายสุทธิลดลงจาก -790 ล้านบาทต่อเดือน คงเหลือจ่ายสุทธิประมาณ -693 ล้านบาทต่อเดือน