“สนธิรัตน์” ลุยพัฒนาแฟรนไชส์ท้องถิ่น ก่อนดันผู้มีรายได้น้อยซื้อไปทำเป็นธุรกิจ

“สนธิรัตน์” เปิดตัวโครงการพัฒนาแฟรนไชส์ท้องถิ่น เตรียมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ติวเข้ม 200 ธุรกิจให้มีความรู้ในการทำธุรกิจและการพัฒนาเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานแฟรนไชส์ช่วง มี.ค.-ก.ย.นี้ เผยหลังพัฒนาสำเร็จเตรียมผลักดันให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ว่างงาน ซื้อไปประกอบเป็นธุรกิจต่อไป หวังช่วยให้มีรายได้เลี้ยงตัว

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงาน Local Franchise Roadmap วันที่ 9 มี.ค. 2561 ว่า กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยเหลือและเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ท้องถิ่น (Local Franchise) ให้เกิดการพัฒนาธุรกิจของตนเองบนมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยฝึกอบรม เพิ่มพูนความรู้ในการทำธุรกิจแบบตัวต่อตัว ณ สถานประกอบธุรกิจของแต่ละราย และยังจะพาไปดูงานของธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีมาตรฐานคุณภาพ เพื่อการเรียนรู้และนำไปปรับใช้กับการทำธุรกิจของตนเอง โดยจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานระหว่างเดือน มี.ค.-ก.ย. 2561

“ได้เปิดรับสมัครธุรกิจแฟรนไชส์ท้องถิ่นที่อยู่ทั่วประเทศให้เข้ารับการฝึกอบรมมาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2561 โดยมีธุรกิจที่สนใจสมัครเข้าร่วมกว่า 200 ราย และจากนี้ไปจะเป็นขั้นตอนของการเข้าไปช่วยพัฒนา และปรับรูปแบบการทำธุรกิจให้ได้มาตรฐาน และผ่านเกณฑ์มาตรฐานเพื่อขอรับเครื่องหมาย DBD Franchise Standard จากนั้นจะช่วยส่งเสริมธุรกิจ โดยนำไปออกบูทงานแฟร์ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียง เช่น Thai Franchise & SME Expo, Smart SME Expo, Thailand Franchise & Business Opportunity (TFBO) เป็นต้น เพื่อผลักดันให้มีโอกาสในการขายแฟรนไชส์ได้มากขึ้น” นายสนธิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ว่างงาน ที่อยู่ในส่วนภูมิภาคได้คัดเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่ผ่านการพัฒนาคุณภาพไปประกอบเป็นอาชีพ ซึ่งจะทำให้คนเหล่านี้หลุดพ้นจากความยากจน เพราะการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ไม่มีความเสี่ยง เพราะการเริ่มต้นทำธุรกิจจะมีพี่เลี้ยงมาช่วยประคับประคอง ทำให้ธุรกิจอยู่รอด และเกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากถึง 100 ล้านบาท

ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและผ่านเกณฑ์มาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์จำนวน 200 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ จำนวน 108 ราย และต่างจังหวัดจำนวน 92 ราย