“พาณิชย์” เผยจีนตกลงซื้อข้าวจีทูจีแสนตันที่ 5 ภายใต้สัญญา 1 ล้านตันแล้ว ส่งมอบเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ พร้อมลุยประมูลข้าวฟิลิปปินส์ 2.5 แสนตันที่จะเปิดประมูลเร็วๆ นี้ เผยข้าวค้างสต๊อก 2 ล้านตันไม่มีผลต่อตลาดข้าว เหตุเป็นข้าวที่ต้องระบายเข้าอุตสาหกรรม มีระบบคุมเข้ม ไม่มีเล็ดลอด
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยสามารถตกลงราคาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับบริษัท คอฟโก ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ในส่วนของข้าวแสนตันที่ 5 จากสัญญาซื้อขาย 1 ล้านตันที่ไทยและจีนได้ตกลงกันไว้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ได้แล้ว โดยกำหนดส่งมอบในเดือน มี.ค.-เม.ย. 2561 และหลังจากนี้ไทยจะเร่งเจรจากับจีนให้รับมอบข้าวในส่วนที่เหลืออีก 5 แสนตัน จนครบ 1 ล้านตันตามสัญญาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะผลักดันให้เอกชนเข้าไปประมูลข้าวฟิลิปปินส์ โดยหน่วยงานนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ (เอ็นเอฟเอ) ได้ประกาศว่าจะนำเข้าข้าวปริมาณ 2.5 แสนตัน เปิดประมูลแบบจีทูพี (รัฐต่อเอกชน) และจะนำเข้าให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2561 คาดว่าเอ็นเอฟเอจะประกาศเปิดประมูลอย่างเป็นทางการภายในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อสถานการณ์ข้าวนาปรังปีการผลิต 2561 ของไทย เพราะจะมีตลาดมารองรับผลผลิตข้าว และจะช่วยให้ราคาข้าวขาวที่เกษตรกรขายได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก
สำหรับการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออยู่อีก 2 ล้านตัน ซึ่งเป็นข้าวเข้าอุตสาหกรรม กรมฯ มั่นใจว่าการระบายข้าวจะไม่กระทบต่อผลผลิตข้าวนาปรังฤดูการผลิตปี 2561 ที่กำลังจะทยอยออกสู่ตลาด และราคาที่เกษตรกรจะได้รับ เนื่องจากข้าวคงเหลือในสต๊อกของรัฐที่รอการระบายนี้เกือบทั้งหมดเป็นข้าวที่จะระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมไม่ใช่ข้าวสำหรับการบริโภค และในการระบายยังมีมาตรการคุมเข้มป้องกันการรั่วไหลกลับเข้าสู่ตลาดบริโภคจึงมั่นใจได้
ส่วนผลการระบายข้าวของรัฐบาลชุดนี้ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เริ่มระบายข้าวค้างสต๊อกจำนวนมหาศาลมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2557 จนถึงปัจจุบันได้ระบายข้าวแล้วปริมาณกว่า 14.84 ล้านตัน ทำให้สามารถลดปริมาณข้าวส่วนเกินที่เป็นอุปสรรคและบิดเบือนระบบกลไกตลาดการค้าข้าวไทยตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมาได้สำเร็จ
