รัฐบาลโมซัมบิกอนุมัติแผนพัฒนาแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม ในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน
นายพงศธร ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ร่วมลงทุนในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ซึ่งมีบริษัทอนาดาร์โก ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (Anadarko Petroleum Corporation) เป็นผู้ดำเนินการนั้น ล่าสุดรัฐบาลโมซัมบิกได้อนุมัติแผนการพัฒนาแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม (Golfinho-Atum) ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งหนึ่งในโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน หลังจากที่มีการศึกษาทางเทคนิคและศักยภาพเชิงพาณิชย์ของโครงการแล้ว นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในรอบหลายปีที่ผ่านมา
“โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน เป็นหนึ่งในโครงการที่มีความสำคัญตามแผนกลยุทธ์การลงทุนของ ปตท.สผ. การที่แผนพัฒนาแหล่งโกลฟินโญ-อาตุมได้รับอนุมัติจากรัฐบาลโมซัมบิกในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้มีการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision) ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญอีกขั้นหนึ่งของโครงการ” นายพงศธรกล่าว
ในช่วงที่ผ่านมาโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน มีความคืบหน้าที่สำคัญหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อสรุปด้านกฎหมายและกฎระเบียบกับทางรัฐบาล การได้รับอนุมัติสัมปทานการบริหารจัดการทางทะเลและท่าเรือ (Marine Concessions) จากรัฐบาลโมซัมบิก การเริ่มดำเนินการเคลื่อนย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการ (Resettlement) ในเดือนพฤศจิกายน 2560 ซึ่งเป็นอีกก้าวที่สำคัญสำหรับการก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว รวมทั้งการอนุมัติแผนการพัฒนาแหล่งโกลฟินโญ-อาตุมในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลโมซัมบิกให้ความสำคัญและสนับสนุนให้ประเทศโมซัมบิกเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ระดับโลก นอกจากนี้ กลุ่มผู้ร่วมทุนในโครงการยังคงเดินหน้าเจรจาสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ระยะยาวกับผู้ซื้อ และเจรจาสัญญาเงินกู้ในรูปแบบ Project Finance กับสถาบันการเงิน
ปัจจุบันโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน อยู่ในระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว โดยในเฟสแรกจะประกอบด้วยโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว 2 สายการผลิต ซึ่งมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 12.88 ล้านตันต่อปี โดยแหล่งโกลฟินโญ-อาตุมยังสามารถผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อจำหน่ายและใช้ภายในประเทศโมซัมบิกในเบื้องต้นประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทั้งนี้ โครงการยังมีความได้เปรียบในที่ตั้งของโครงการซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง อีกทั้งยังสะดวกต่อการขนส่งมายังตลาดในเอเชีย และอื่นๆ