“พาณิชย์” เผยยอดการใช้สิทธิ FTA ส่งออกปี 60 มีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.20% คิดเป็นสัดส่วน 71.32% ของสินค้าที่ได้สิทธิ์ทั้งหมด แนะผู้ประกอบการไทยขอใช้สิทธิ์เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับสินค้าไทยเหนือคู่แข่ง
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยมีการใช้สิทธิส่งออกภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมมูลค่า 60,441.61 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.20% และคิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิสูงถึง 71.32% ของยอดการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิลดภาษีภายใต้ FTA ทั้งหมด โดยสินค้าสำคัญที่ส่งออกภายใต้สิทธิ FTA เช่น กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารปรุงแต่งและแปรรูป และกลุ่มปิโตรเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
“การใช้สิทธิ FTA ในการส่งออก เป็นแต้มต่อทางการค้าที่สำคัญของผู้ส่งออกไทยในการชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เนื่องจากสินค้าที่ผลิตได้ถิ่นกำเนิดของไทยและมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ FTA กำกับการส่งออกสามารถนำไปใช้ในการลดหย่อนหรือยกเว้นอากรขาเข้าประเทศปลายทางที่เป็นภาคีความตกลง FTA กับไทยได้ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการมาใช้สิทธิ FTA กันให้มากๆ” นายอดุลย์กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ กรมฯ ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยลดขั้นตอนการดำเนินการ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ด้วยการยกระดับการให้บริการและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการดำเนินธุรกิจเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคเอกชน ซึ่งกรมฯ ถือเป็นภารกิจหลักในการทำงานมาโดยตลอด
ปัจจุบันไทยได้ทำ FTA กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ครอบคลุมทั้งในทวีปเอเชีย โอเชียเนีย และอเมริกาใต้ รวม 17 ประเทศ 12 กรอบความตกลง ได้แก่ อาเซียน อาเซียน-จีน ไทย-อินเดีย อาเซียน-อินเดีย ไทย-ออสเตรเลีย อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ไทย-ญี่ปุ่น อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลี ไทย-เปรู และไทย-ชิลี และไทย-นิวซีแลนด์