“บอร์ด กฟผ.” เตรียมเคาะรายชื่อผู้ว่าการคนใหม่วันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) หลังคณะกรรมการสรรหาสัมภาษณ์วิสัยทัศน์ผู้สมัคร 4 คนแล้วเสร็จ แย้ม “จักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์” คะแนนนำแต่ต้องลุ้น รมว.พลังงานเห็นด้วย ขณะที่ ครม.ไฟเขียว “วิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์” นั่งประธานบอร์ด กฟผ.
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บอร์ด กฟผ.) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด กฟผ.ในวันที่ 21 ก.พ.นี้จะมีการพิจารณาเห็นชอบบุคคลที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่แทน นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ.คนปัจจุบันที่จะครบวาระในวันที่ 30 เมษายน 2561 หลังจากที่ได้ผ่านขั้นตอนการสรุปผลจากคณะกรรมการสรรหาที่มี นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ เป็นประธาน โดยล่าสุดพบว่า นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ปฏิบัติงานที่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นผู้มีคะแนนสูงสุดจากผู้ยื่นสมัครรวม 4 คน
ทั้งนี้ กฟผ.ได้เปิดรับสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าการ กฟผ.ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2560 ถึง 10 มกราคม 2561 โดยมีผู้สมัคร 4 คน ประกอบด้วย 1. นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ปฏิบัติงานที่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ 2. นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ 3. นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย รองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง และ 4. นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ปฏิบัติงานที่บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
โดยคณะกรรมการสรรหาฯ ได้กำหนดให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา ผู้ที่ได้คะแนนนำคือ นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์
ขณะเดียวกัน สื่อภายใน กฟผ.มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์วิสัยทัศน์ของผู้สมัครทั้ง 4 คนในช่วงเช้าของวันที่ 20 ก.พ.ให้แก่พนักงาน กฟผ.ทราบ โดยนายจักษ์กริชได้ชี้ให้เห็นการทำงานของผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ถือเป็นโจทย์ที่ยาก แต่สำคัญที่ต้องนำองค์กรให้สามารถผ่านอนาคตที่ลำบากไปด้วยกันให้ได้นั้นต้องปรับองค์กรรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทน และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ไม่เป็นไปตามคาด หลังเศรษฐกิจไม่ได้ขยายตัวเหมือนที่ประเมินไว้ และแม้ว่าสถานการณ์พลังงานในโลกนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่บทบาทของ กฟผ.ยังต้องยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก สร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ
นอกจากนี้ นายจักษ์กริชระบุว่า พนักงาน กฟผ.ที่มีถึง 2.2 หมื่นคนในปัจจุบันเป็นการออกแบบโครงสร้างรองรับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ทั้งโรงไฟฟ้าพลังความร้อนพลังความร้อนร่วม แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็ต้องปรับการว่าจ้างให้เหมาะสม แต่ กฟผ.ก็จะไม่มีนโยบายปลดคน จะเดินตามนโยบายที่นายกรศิษฎ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ.คนปัจจุบันวางไว้ คือ รับพนักงานใหม่แทนคนเกษียณในอัตราต่ำ ตามเป้าพนักงานจะเหลือ 1.5 หมื่นคนใน 10 ปีข้างหน้า
ขณะที่รายได้ในอนาคตอาจลดต่ำลงจากการแข่งขันผลิตไฟฟ้าในประเทศที่รุนแรง โดยล่าสุดจะเห็นว่าการแข่งขัน SPP Hybrid firm เสนอราคาค่าไฟต่ำเพียง 1.80 บาทต่อหน่วย ดังนั้น การหารายได้ของ กฟผ.ในอนาคตก็ต้องมุ่งมั่นไปในต่างประเทศมากยิ่งขึ้นด้วย
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (20 ก.พ.) ครม.ได้รับทราบตามข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน ให้นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และกรรรมการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ กฟผ. แทนนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2561 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเกิดกระแสข่าวลือว่าการเสนอชื่อผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่อาจจะเสนอให้ รมว.พลังงานเห็นชอบก่อน โดยมี 2 รายชื่อ โดยอีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ นายจักษ์กริชมีคะแนนนำแต่ไม่ได้ผ่านการเรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ขณะที่นายกิจจานั้นก่อนหน้านี้มาแรงแต่ไม่ยอมรับตำแหน่งด้วยเหตุผลส่วนตัว จึงเหลือนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ที่เรียนจบ วปอ.เพียงคนเดียว ขณะที่นายบุญญนิตย์แม้พนักงานรุ่นใหม่ กฟผ.จะเชียร์แต่ยังถูกมองว่าเด็กเกินไป