“อภิรดี” สั่งสำรวจโอกาสทำตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในตลาดจีน เหตุจีนจะกลายเป็นตลาดอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในโลกปี 2020 และยังมีนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่ไทยเข้าไปใช้ประโยชน์ในการสร้างโอกาสค้าขายได้ “จันทิรา” เผยสินค้าไทยมีโอกาสเข้าสู่ตลาดสูง โดยเฉพาะอัญมณีและพลอยสี เหตุทั่วโลกและจีนยอมรับในคุณภาพ เล็งทำแผนเจาะตลาดเต็มที่ พร้อมแนะผู้ส่งออกต้องเน้นคุณภาพ พัฒนาดีไซน์
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบนโยบายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในจีนทำการสำรวจตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อหาลู่ทางในการส่งเสริมและผลักดันสินค้ากลุ่มนี้ของไทยเจาะเข้าสู่ตลาดจีนให้ได้เพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจของจีนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการหาโอกาสผลักดันการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (OBOR) ทั้ง 64 ประเทศ หลังจากที่ประเทศเหล่านี้จะมีการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุน ลอจิสติกส์ และการเงินระหว่างกัน
“ขอให้ไปติดตามดูว่าผลจากการที่เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัว และผลจากนโยบายของจีนที่ต้องการผลักดันให้จีนเป็นตลาดอัญมณีใหญ่ที่สุดในโลก จะเป็นโอกาสให้การค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยขยายสู่ตลาดจีนได้อย่างไร รวมทั้งไทยจะเข้าไปใช้โอกาสจากนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางนี้อย่างไร ทั้งนี้เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น” นางอภิรดีกล่าว
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ผลจากการติดตามแนวโน้มตลาดการค้าอัญมณีและเครื่องประดับในจีนพบว่า ปัจจุบันจีนเป็นตลาดอัญมณีใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ แต่คาดกันว่าในปี 2020 จีนจะกลายเป็นตลาดอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมียอดจำหน่ายของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับสูงถึง 8 แสนล้านหยวน จึงเป็นโอกาสของอัญมณีไทยที่จะสามารถเจาะตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น เพราะผู้บริโภคจากทั่วโลกและจีนยอมรับว่าไทยเป็นศูนย์กลางอัญมณีและตลาดพลอยสีที่สำคัญของโลก และงานบางกอกเจมส์ก็เป็นงานแสดงสินค้าที่สำคัญ 1 ใน 5 ของโลก และมีโอกาสที่จะขยับขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของโลกได้ด้วย
ส่วนสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยที่มีโอกาส จากการศึกษาตลาดพบว่า ทองคำเป็นที่นิยมในสัดส่วนถึง 77% ของอัญมณีทั้งหมด ที่เหลือเป็นพลอยสี หยก และเพชร ซึ่งแม้จะมีสัดส่วนไม่มากแต่มีศักยภาพและการเติบโตสูง โดยเฉพาะสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่มีคุณภาพ มีดีไซน์ และสวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาดมาก ซึ่งผู้ส่งออกไทยสามารถหาคู่ค้าและมีช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภค ก็สามารถช่วยขยายตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในจีนได้
สำหรับช่องทางในการทำตลาด จะต้องหาคู่ค้าที่มีช่องทางการจำหน่ายเพื่อให้สามารถทำตลาดได้ดี และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าไทย โดยตลาดที่ควรจะเจาะเข้าไป เช่น ตลาดทางด้านภาคตะวันตกของจีน นครเฉิงตู มหานครฉงชิ่ง ที่ยังมีการแข่งขันน้อยเมื่อเทียบกับมณฑลทางภาคตะวันออกหรือภาคใต้ และยังสามารถขยายตลาดไปยังมณฑลกุ้ยโจว ส่านซี กานซู่ได้
“กรมฯ มีแผนที่จะเดินหน้าประชาสัมพันธ์สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในตลาดจีน โดยจะมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการนำคณะผู้ส่งออกเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในจีนเพื่อเปิดตัวและแนะนำสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จัก การเชิญผู้ผลิตของจีนให้เดินทางมาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าบางกอกเจมส์ และเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าให้เดินทางเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และยังมีกิจกรรมที่จะสานความสัมพันธ์ระหว่างผู้ค้าของทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่องด้วย” นางจันทิรากล่าว