“พาณิชย์” เผยข้าวหอมมะลิไทยคว้าแชมป์โลก ข้าวรสชาติดีที่สุดในโลกมาครองเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังทวงแชมป์คืนมาได้เมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ไทยทำสถิติครองแชมป์เป็นครั้งที่ 5 เหนือประเทศคู่แข่ง “อภิรดี” กำชับคุมเข้มคุณภาพให้ดีต่อเนื่อง พร้อมใช้จังหวะนี้โปรโมตข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น ระบุผลผลิตข้าวหอมมะลิปีนี้ คุณภาพดี คาดส่งออกได้เพิ่มขึ้น
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการจัดประกวดข้าวดีเด่นโลก (The World’s Best Rice 2017) ครั้งที่ 9 ที่มาเก๊า จัดโดยองค์กร The Rice Trader ซึ่งเป็นองค์กรต่างประเทศ ที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมข้าวโลก ปรากฏว่า ข้าวหอมมะลิไทยสามารถคว้าแชมป์ข้าวที่รสชาติดีที่สุดในโลกมาครองอีกหนึ่งสมัย โดยข้าวหอมของประเทศกัมพูชา ได้อันดับที่ 2 และข้าว ST24 ของประเทศเวียดนาม ได้อันดับที่ 3 แสดงให้เห็นว่าข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวหอมที่ดีที่สุดในโลก มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ หลังจากเมื่อปี 2016 ข้าวหอมมะลิไทยได้ทวงตำแหน่งแชมป์กลับคืนมาและยังคงรักษาแชมป์ได้อีกในปีนี้
“จากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นแชมป์ข้าวที่รสชาติดีที่สุดในโลกรวมกันถึง 5 สมัย จากการประกวดทั้งหมด 9 ครั้ง โดยไทยเคยคว้าแชมป์รางวัลดังกล่าวได้ในการประกวดครั้งที่ 1 (ปี 2552) ครั้งที่ 2 (ปี 2553) ครั้งที่ 6 (ปี 2557) ครองแชมป์ร่วมกับข้าวผกาลำดวนของกัมพูชา และครั้งที่ 8 (ปี 2559) แสดงให้เห็นว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีรสชาติดีที่สุดในโลก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นรักษาคุณภาพและดูแลมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยอย่างเข้มงวดต่อไป รวมทั้งจะมีการเดินหน้าประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น” นางอภิรดีกล่าว
สำหรับแผนการรักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย จะเดินหน้าสร้างองค์ความรู้ให้เกษตรกรเพื่อปลูกข้าวคุณภาพดี เก็บเกี่ยวในช่วงที่เหมาะสม ส่วนการขยายช่องทางการตลาดจะดำเนินการทั้งช่องทางปกติ และ Online การจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางเยือนประเทศลูกค้าเป้าหมาย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน สหรัฐฯ เพื่อเจรจาขยายตลาดข้าว และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญ เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย และการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในไทย เป็นต้น
ทั้งนี้ การจัดการประกวดดังกล่าว เริ่มจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2552 ณ เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ และจะจัดหมุนเวียนไปตามประเทศที่ปลูกข้าวเป็นหลัก โดยจะมีคณะกรรมการตัดสินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร สมาคมบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับการทำอาหารในสหรัฐฯ และพ่อครัวที่มีชื่อเสียงในระดับสากลจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นกรรมการ โดยใช้เกณฑ์การตัดสิน 4 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกลิ่น รสชาติ ความเหนียวนุ่ม และรูปร่างลักษณะ โดยใช้วิธีตัดสินแบบการทดสอบด้วย Blind Testing ซึ่งไม่ให้กรรมการทราบว่าเป็นข้าวของประเทศใด จากนั้นให้ลงคะแนน และนำผลคะแนนมาตัดสิน
นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ข้าวหอมมะลิไทยในปีการเพาะปลูก 2560/61 จากการลงพื้นที่ศึกษาผลผลิตข้าวหอมมะลิไทย ณ จังหวัดอุบลราชธานี พบว่าภาพรวมผลผลิตข้าวหอมมะลิไทยดีขึ้น แม้บางพื้นที่จะเกิดความเสียหายจากน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นนาลุ่ม แต่พื้นที่นาดอนส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเสียหาย ประกอบกับปีนี้มีปริมาณน้ำฝนต่อเนื่องตั้งแต่หลังสงกรานต์และไม่เกิดโรคระบาดในข้าวที่สำคัญ ทำให้ผลผลิตต่อไร่จะดีขึ้นจากปีก่อน รวมทั้งการเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ข้าวหอมมะลิไทยที่จะออกสู่ตลาดมีคุณภาพดีและมีความหอมสูงเป็นที่ต้องการของตลาดในต่างประเทศ ทำให้เกษตรกรสามารถขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่ดีขึ้นด้วย