ชาวนาอุบลฯ ครวญลมแรงทำต้นข้าวล้ม ต้องจ่ายค่าเกี่ยวข้าวมากกว่าปกติ

อุบลราชธานี - ชาวนาอุบลฯ ครวญเจอลมหนาวพัดแรงต้นข้าวล้มระเนระนาด กระทบจ่ายค่าเกี่ยวข้าวเพิ่มอีกไร่ละ 100 บาท ขณะศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ ระบุอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส เหตุความกดอากาศสูงและมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนมีอิทธิพลลดลง แต่ยังมีลมพัดแรงเช่นเดิม

นายบุญเริ่ม ดาญาณ อายุ 50 ปี ชาวนาบ้านทุ่งบอน หมู่ 16 ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ตนทำนากว่า 20 ไร่ ต้องเสียเงินค่าเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิที่ปลูกไว้มากกว่าปกติ เนื่องจากเกิดปัญหามีลมพัดแรง ทำให้ต้นข้าวที่ได้อายุเก็บเกี่ยวล้มเป็นบริเวณกว้างนับสิบไร่ เมื่อว่าจ้างรถเกี่ยวข้าวมาทำการเก็บเกี่ยวต้องจ่ายเงินเพิ่มจากไร่ละ 700 บาท เป็น 800 บาท เพราะรถวิ่งเก็บเกี่ยวข้าวได้ช้าลง

นอกจากนี้ จากสภาพอากาศที่หนาวเย็น มีฝนตกและมีหมอกลงในตอนเช้า ทำให้มีน้ำค้างเกาะตามเมล็ดข้าว ก่อนนำไปขายให้โรงสีต้องนำมาตากให้แห้งเพื่อลดความชื้นจะได้ไม่ถูกหักค่าความชื้นมากเกินไป สำหรับราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ปัจจุบันมีราคารับซื้อเฉลี่ยกิโลกรัมละประมาณ 9 บาท

นายบุญเริ่มกล่าวต่อว่า อยากให้รัฐบาลสนับสนุนราคาข้าวเปลือกให้สูงกว่านี้อีก 5-6 บาท เพราะปัจจุบันค่าจ้างไถและค่าเก็บเกี่ยวมีราคาสูงขึ้น ทำให้ชาวนาได้กำไรแค่เพียงมีข้าวไว้กินในครัวเรือน แต่ไม่มีรายได้จากการขายข้าวในแต่ละปีเลย

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี รายงานสภาพอากาศในสัปดาห์นี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีอากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของพื้นที่

สำหรับช่วงวันที่ 8-13 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังอ่อนลงต่อเนื่อง โดยยังไม่มีระลอกใหม่แผ่เสริมลงมาถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ในช่วง 21-24 องศาเซลเซียส กับจะมีฝนเล็กน้อยได้บางพื้นที่ ส่วนลมตะวันออกเฉียงเหนือมีความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง