xs
xsm
sm
md
lg

นับถอยหลังลอยตัวน้ำตาล! ประเดิมแน่ ธ.ค.นี้ราคาจ่อลง 2-3 บาท/กก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กอน.” เร่งเครื่องลอยตัวราคาน้ำตาลทรายใกล้ถึงโค้งสุดท้าย มั่นใจทัน 1 ธ.ค.หลังเคลียร์ทุกภาคส่วนลงตัว กางโมเดลคำนวณราคาหน้าโรงงาน ค่าอ้อยขั้นต้นและขั้นสุดท้าย คาดราคาขายปลีกถึงมือประชาชนประเดิมเดือนแรก ธ.ค.ลด 2-3 บาทต่อ กก. เหตุราคาโลกต่ำหัก 5 บาทออก ขณะที่ราคาอ้อยขั้นต้นฤดูผลิต 60/61 คาดอยู่ที่ 850-870 บาทต่อตัน

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า การประชุม กอน.เมื่อ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบหลักการแนวทางการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายและร่างระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประมาณ 5 ระเบียบ เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อให้ทันกำหนดลอยตัวราคาน้ำตาลทรายวันที่1 ธันวาคมนี้ ซึ่งหลักปฏิบัติได้มีการหารือและตกผลึกกับทุกภาคส่วนแล้ว โดยการคำนวณราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานจะอ้างอิงราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดลอนดอน No.5 บวกราคาไทยพรีเมียม (ส่วนเพิ่มทางการตลาดของการขายน้ำตาลไทยให้แก่ผู้ซื้อ) โดยจะพิจารณาเฉลี่ยเป็นรายเดือน เบื้องต้นคาดว่าการลอยตัวจะส่งผลให้ราคาขายปลีกลดลง 2-3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.)

“ขณะนี้ราคาคำนวณจะมีส่วนของ 5 บาทต่อ กก.ที่เป็นราคาน้ำตาลทรายเก็บเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) ตามหลักการเปิดเสรีจะต้องตัดส่วนนี้ออกไป ดังนั้นเมื่อคำนวณราคาตามสูตรลอนดอน No.5 บวกไทยพรีเมียมราคาหน้าโรงงานจะออกมาราว 13.50-14.50 บาทต่อ กก. อย่างไรก็ตาม การขายจริงของโรงงานนั้นจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดซื้อขายซึ่งปกติจะสูงกว่า ส่วนเกินนี้จะต้องนำส่งเข้ากองทุนอ้อยฯ เพื่อสะสมไว้ดูแลระบบซึ่งประเมินว่าจะได้ประมาณ 3 บาทต่อ กก. ขณะที่ราคาขายปลีกปลายทางที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลจะพิจารณาตามต้นทุนค่าบรรจุภัณฑ์ การตลาด ขนส่ง ซึ่งขณะนี้เฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.50 บาทต่อ กก. ตามสูตรนี้คาดว่าราคาขายปลีกน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์เฉลี่ยจะอยู่ที่ 20.50-21 บาทต่อ กก. หรือลดลง 2-3 บาทต่อ กก.” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับหลักการต้องยกเลิกปริมาณการจัดสรรน้ำตาลทั้งหมด โดยโควตา ก. สำหรับบริโภคภายในประเทศ โดยให้ประมาณการปริมาณน้ำตาลทรายและเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีเพียงพอจึงให้โรงงานสำรองน้ำตาลทรายตามปริมาณ Buffer Stock ที่กำหนด และให้โรงงานขายน้ำตาลตามความต้องการของตลาดภายในประเทศ เบื้องต้น กอน.ได้ประมาณการน้ำตาลบริโภคในประเทศฤดูผลิตปี 60/61 ไว้ที่ 26 ล้านกระสอบ เพื่อจัดสรรตัวเลขน้ำตาลตามความรับผิดชอบของโรงงานโดยไม่มีงวดจำหน่ายเช่นปัจจุบันที่จะกำหนด 52 สัปดาห์

ส่วนการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นก็ได้กำหนดหลักการไว้แล้ว คาดว่าฤดูการผลิตปี 60/61 ราคาอ้อยขั้นต้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ 850-870 บาทต่อตัน ซึ่งคาดหวังว่าเมื่อมีการคำนวณราคาอ้อยขั้นสุดท้ายแล้วจะมีเงินที่ถูกเก็บสะสมเข้ากองทุนฯ ในการนำมาดูแลราคาอ้อยให้ชาวไร่ได้

“โมเดลนี้ก็ยังคงต้องจับตาว่าจะทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนฯ สะสมได้มากน้อยเพียงใด เพราะต่อไปโรงงานจะขายได้เสรีไม่จำกัดงวดผลิต โดยหากระบบมีการดัมป์ราคาขายแข่งมากเงินส่วนต่างก็อาจจะไม่ได้ไหลเข้ากองทุนฯ มากเช่นกัน แต่ระหว่างทางดำเนินการก็ถือเป็นการทดสอบระบบ หากมีปัญหาก็สามารถปรับเปลี่ยนได้” แหล่งข่าวกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น