ปตท.วางเป้าหมายลดอุบัติเหตุจากการขนส่งทางรถยนต์ขั้นร้ายแรงเหลือ 0 ครั้ง/1 ล้าน กม.ในปี 64 และลดการใช้เชื้อเพลิง 15% ในปี 61 ย้ำใช้จิฟฟี่เป็นกลไกการขยายร้านสะดวกซื้อในอาเซียน ส่วนในไทยจะเปิดเพิ่มเฉพาะปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่เท่านั้น
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล PTT Group Logistics Zero Accident และรางวัล Eco-Driving ประจำปี 2560 ณ สำนักงานใหญ่ โดยรางวัล PTT Group Logistics Zero Accident เป็นรางวัลที่มอบให้ผู้รับจ้างขนส่งและพนักงานขับรถขนส่งที่ปฏิบัติตามเกณฑ์ความปลอดภัยในการขนส่งผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. และรางวัล Eco-Driving เป็นรางวัลที่มอบให้ผู้รับจ้างขนส่งที่สามารถลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.มีความมุ่งมั่นที่จะลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิด “ปตท.ปลอดภัยตลอดเส้นทาง” เพื่อย้ำเตือนให้ผู้ขับขี่คำนึงถึงความปลอดภัยตลอดการขับขี่ นอกจากนี้ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยได้กำหนดทิศทางและจัดทำแผนกลยุทธ์ระยะยาว หรือ PTT Group Zero Logistics Accident และ Eco-Driving Roadmap จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในปัจจุบันที่เท่ากับ 0.07 ครั้ง/1 ล้านกิโลเมตร หรือประมาณ 15 ล้านกิโลเมตรเกิดอุบัติเหตุเพียงหนึ่งครั้ง โดย กลุ่ม ปตท.มีเป้าหมายโครงการฯ ในการลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งทางรถยนต์ขั้นร้ายแรงให้เท่ากับ 0 ครั้ง/1 ล้านกิโลเมตร ภายในปี 2564
สำหรับโครงการลดการใช้เชื้อเพลิงของผู้รับจ้างขนส่งทางรถ หรือ Fuel Saving Program ได้ริเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งการประเมินผลการลดการใช้พลังงานจะประเมินจากอัตราการใช้พลังงานเชื้อเพลิงหลังเข้าร่วมโครงการฯ เปรียบเทียบกับอัตราการใช้พลังงานเชื้อเพลิงก่อนเข้าร่วมโครงการฯ โดยมีเป้าหมายในการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงเท่ากับ 15% ภายในปี 2561
นายเทวินทร์กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ว่า บริษัทจะใช้จิฟฟี่เป็นกลไกในการขยายร้านสะดวกซื้อในตลาดแถบอาเซียน เนื่องจากโมเดลสถานีบริการน้ำมันที่มีร้านสะดวกซื้อเป็นที่นิยม แต่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่ซีพี ออลล์ได้ไลเซนส์เฉพาะในไทย จึงไม่สามารถขยายไปต่างประเทศได้
ส่วนในไทย การขยายร้านจิฟฟี่ก็จะเน้นเปิดในสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ของ ปตท. แต่ยืนยันในประเทศไทย ปตท.ยังเป็นพันธมิตรกับร้าน 7-11 เพราะต่างเสริมยอดขายซึ่งกันและกัน โดยอีก 6 ปีข้างหน้ายังไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น