ผู้จัดการรายวัน 360 - “เจ้เล้ง” เอาใจลูกค้ารับความโสดอีกครั้ง ส่งแคมเปญ เจ้เล้ง BIRTHDAY SAIL 1-10 ก.ย.นี้ คาดเงินสะพัดร่วม 300 ล้านบาท เผยหมดเวลาเศร้าปั๊มเงินดีกว่า สิ้นปีมั่นใจรายได้โตอีก 20% พร้อมเล็งต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำโกดัง สำนักงาน ปล่อยเช่าพื้นที่ระยะยาว ซื้อคอนโดฯ ต่างประเทศปล่อยเช่าที่สิงคโปร์
นางสาวอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ แอนด์ เจ บิวตี้ โปรดักส์ จำกัด หรือ "เจ้เล้ง ดอนเมือง" เจ้าแม่ธุรกิจเครื่องสำอางและสินค้านำเข้าย่านดอนเมือง เปิดเผยว่า ภาพรวมการขายของทางร้านเจ้เล็งตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 จนถึงปัจจุบัน (สิงหาคม 2560) พบว่าลูกค้าไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอย ยอดขายขึ้นๆ ลงๆ ทำให้ภาพรวมยอดขายคงที่ แม้ยอดขายไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ลดลง
ทั้งนี้เพราะทางร้านสรรหาและนำเข้าสินค้าใหม่ๆ จากต่างประเทศร่วม 1,000 รายการ เพื่อนำเสนอผู้บริโภคตลอดปี แตกต่างจากภาพรวมภายนอกที่จะค่อนข้างแย่กว่า เพราะยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ที่นี่จะขายของดีเพราะราคาถูก ลูกค้านำไปขายต่อได้
อย่างไรก็ตาม แต่ละปีร้านเจ้เล้งจะจัดโปรโมชันปีละครั้ง ซึ่งปีนี้กิจกรรม เจ้เล้งBIRTHDAY SAIL จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ก.ย. 2560 ด้วยโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 2 แถม 1, ซื้อ 3 แถม 1 รวมทั้งยังมีโปรโมชันอื่นๆ เช่น ชอปครบ 1,000 บาท ได้รับคูปองชิงโชคลุ้นทัวร์ญี่ปุ่น 2 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง, จับสลากคูปองเงินสดมูลค่า 1,000 บาท สำหรับซื้อของในร้าน และทุกใบเสร็จ สามารถนำมาจับสลากชิงรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อีก คาดว่ายอดขายรวมน่าจะดีกว่าปีก่อน หรือมียอดขายไม่ต่ำกว่า 200-300 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อช่องทางขายผ่านออนไลน์ พบว่ามีการเติบโตเป็น 100% จากเดิมขายได้ 2-3 ชิ้น ปัจจุบันขายได้เป็น 100 ชิ้น หรือมียอดขายเฉลี่ยวันละ 3-4 แสนบาท สูงสุด 1 ล้านบาท กลุ่มสินค้าขายดีคือ เครื่องสำอาง และขนม ส่วนยอดขายในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ยอดขายค่อนข้างนิ่ง โดยลูกค้าจะสั่งซื้อหรือมาเลือกดูเอง ซึ่งปีนี้ยอดขายออนไลน์คิดเป็น 20% ของรายได้รวม ปีหน้าน่าจะเพิ่มเป็น 30-40% ได้
“พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน เราต้องตามให้ทัน โดยการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ขายตามออนไลน์ จากปกติจะเน้นแบรนด์ดังเป็นหลัก แต่กลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นกลุ่มคนทำงาน อายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนวัยรุ่นทำตลาดยาก เพราะพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
ส่วนเรื่องอดีตสามี เจ้เล้งกล่าวว่า หลังจากจบเรื่องที่ต้องจ่ายเงินให้ไปกว่า 700 ล้านบาท และศาลพิพากษาคดีจบแล้ว ตอนนี้ไม่เศร้าแล้ว ตัดขาดจริงๆ ข้าวของที่เหลือก็ทิ้งและแจกคนใกล้ตัวไปหมด และพร้อมกลับมาดำเนินธุรกิจต่อ ซึ่งระยะนี้อาจจะมุ่งไปที่เรื่องของอสังหาริมทรัพย์ เป็นการลงทุนที่ทำอยู่เรื่อยๆ ในการแปลงที่ดินเป็นอาคาร โกดัง สำนักงานให้เช่าระยะยาวในอนาคต จากที่มีโฉนดที่ดินในมืออยู่กว่า 300 ฉบับ อีกทั้งมองหาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ กับการซื้อคอนโดมิเนียมและปล่อยเช่า ส่วนรายได้ของร้านเจ้เล้งนั้น ปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อนสัก 10-20% เพราะคนเริ่มเข้าใจสถานการณ์ ปีหน้าเชื่อว่าจะหันกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น