บ้านปูชี้ครึ่งปีหลังทิศทางราคาถ่านหินยังดี ล่าสุดราคาตลาดจรดีดแตะ 101 เหรียญสหรัฐ/ตันแล้ว ทำให้มั่นใจว่าบริษัทมีราคาขายถ่านหินสูงกว่า 66 เหรียญสหรัฐ/ตัน พร้อมเร่งหาปริมาณสำรองถ่านหินเพิ่มขึ้นและลงทุนในธุรกิจ Shale Gas ที่สหรัฐฯ
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางราคาถ่านหินในครึ่งหลังปีนี้มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่มีราคาขายถ่านหินเฉลี่ยอยู่ระดับ 66 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากราคาถ่านหินตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น ล่าสุดราคาถ่านหินตลาดจร (Spot) ที่ออสเตรเลียส่งมอบเดือน ก.ย.ขยับขึ้นไปแตะ 101 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากขณะนี้ปริมาณการผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียและออสเตรเลียค่อนข้างตึงตัวจากปัญหาฝนตกหนักในอินโดนีเซีย ขณะที่ความต้องการใช้ถ่านหินในจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีอยู่
ทำให้ราคาถ่านหินตลาดโลกปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 80-85 เหรียญสหรัฐ/ตัน และคาดว่าปีหน้าแนวโน้มราคาถ่านหินจะไม่ต่ำกว่านี้ เนื่องจากปริมาณการผลิตถ่านหินโลกยังไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น
ดังนั้น ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของบ้านปูจะได้รับอานิสงส์จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากยังมีปริมาณถ่านหินที่อินโดนีเซียรอการขายอยู่ราว 29-30%ของปริมาณการผลิต 24-25 ล้านตัน โดยบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายการขายในปีนี้อยู่ที่ 45 ล้านตันใกล้เคียงปีก่อน แต่บริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจากธุรกิจไฟฟ้าที่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีและโรงไฟฟ้าหงสาที่ สปป.ลาว และยังรับรู้รายได้จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (Shale Gas) ที่บริษัทได้เข้าไปในสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติม
นางสมฤดีกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มปริมาณสำรองถ่านหินจากเหมืองเดิมที่อินโดนีเซีย โดยปรับวิธีการทำเหมืองให้ลึกขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้น 8 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากเดิมมีต้นทุนการผลิต 37 เหรียญสหรัฐ/ตันมาเป็น 45 เหรียญสหรัฐ/ตันในปีนี้ แต่ราคาขายถ่านหินก็ขยับเพิ่มขึ้นเช่นกัน และหาโอกาสเข้าซื้อเหมืองถ่านหินใกล้เคียงเหมืองบ้านปู
ส่วนธุรกิจ Shale Gas บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ 500 ล้านเหรียญสหรัฐในการเพิ่มปริมาณก๊าซฯ ในปี 2563 ให้ได้ 78 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จากปัจจุบันใช้เงินลงทุนไปแล้ว 207 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตก๊าซฯ ได้ 49 ล้านลูกบากศ์ฟุต/วัน ซึ่งจะทำให้บ้านปูรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นอีก 45 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี จากปัจจุบันมีรายได้ธุรกิจก๊าซฯ อยู่ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี จะเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 75 ล้านเหรียญสหรัฐในปี2563 หากราคาก๊าซฯ อยู่ที่ 2.9 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู โดยบริษัทฯ ไม่มีแผนที่จะต่อยอดธุรกิจก๊าซฯ ไปสู่ปิโตรเคมีแต่อย่างใด
ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มีรายได้จากการขาย 1,266 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4.34 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 107 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.67 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 96 ล้านบาท