xs
xsm
sm
md
lg

กรมการค้าภายในเปิดตลาดต้องชม “ถนนคนเดินปากแพรก” ที่ จ.กาญจนบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมการค้าภายในเดินหน้าเปิดตลาดต้องชม ล่าสุดดัน “ถนนคนเดินปากแพรก” ที่ จ.กาญจนบุรีเป็นตลาดต้องชมแห่งใหม่ มั่นใจเป็นแหล่งค้าขายและสร้างรายได้ให้ชุมชน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะดึงดูดคนมาเที่ยวได้เพิ่มขึ้น

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ทำการเปิดตัวตลาดต้องชมแห่งใหม่ คือ ถนนคนเดินปากแพรก ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือเป็นถนนเก่าแก่ตั้งแต่ยุคก่อตั้งกาญจนบุรี ในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อราว 185 ปีก่อน โดยสำนักงานเทศบาลเมืองกาญจนบุรีได้ทำการพัฒนาคุณภาพและยกระดับถนนปากแพรก ถนนสายแรกของเมืองกาญจนบุรีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยว และการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน

โดยถนนสายนี้มีจำนวนร้านค้า 285 ร้านค้า เปิดให้บริการในวันเสาร์ เวลา 16.00-21.00 น. มีสินค้าที่จำหน่าย คือ สินค้าเกษตร พืชผักปลอดสารพิษ และของดีของเด่นของตลาด เช่น ผัดไทยโบราณ ขนมทองโยะ เป็ดย่างเกลือ ข้าวเกรียบ เป็นต้น และมีจุดเด่น โดยจะมีเวทีการแสดงดนตรีของนักเรียน และกลุ่มนักดนตรีในชุมชน ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร พิพิธภัณฑ์อักษะเชลยศึก ประตูเมืองเก่า วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ)

นอกจากนี้ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมตลาดน้ำวัดลำพญา ซึ่งเป็นตลาดต้องชมที่ได้เปิดตัวไปแล้ว โดยตลาดน้ำวัดลำพญาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชนบทที่เน้นวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ ประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น คลังสมองภูมิปัญญาและปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อให้สืบทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง ลักษณะตลาดมีทั้งบนบก แพ และในเรือ ซึ่งเป็นคนในชุมชนประมาณ 70-80% นอกพื้นที่ประมาณ 20% โดยชุมชนแห่งนี้มีชาวบ้าน 2 กลุ่ม อพยพมาตั้งบ้านเรือน คือ ในปลายสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวมอญได้อพยพมาจากสามโคก มาตั้งบ้านเรือนทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน มีอาชีพเกษตรกรรม และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ชาวจีน ที่อพยพมาตั้งบ้านเรือนอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ มีอาชีพค้าขาย จนกลายเป็นตลาดริมน้ำที่คึกคัก

ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่บริเวณริมน้ำของตลาดน้ำวัดลำพญา จะได้พบกับเรือสินค้ามากมายที่ชาวบ้านนำผลิตผลทางการเกษตรหลากหลายชนิดมาจำหน่ายในราคาย่อมเยา ทั้งสดและสะอาด ได้บรรยากาศของตลาดน้ำโดยแท้จริง และยังมีแพอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่มที่ทอดตัวเรียงรายในแม่น้ำถึง 11 หลังด้วยกันเป็นระยะทางยาวประมาณ 250 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเลือกรับประทานอาหารได้หลากหลายตามความต้องการ หรือจะนั่งพักผ่อนชมบรรยากาศริมน้ำ และให้อาหารปลาในแม่น้ำนับแสนตัวบริเวณหน้าวัด ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์และบริสุทธิ์ของธรรมชาติ

สำหรับวันเวลาทำการ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-16.00 น. มีจำนวนร้านค้า 400 ร้านค้า และสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าพื้นบ้านและผักปลอดสารพิษ สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้า OTOP ได้แก่ จักสานผักตบชวา ข้าวไรซ์เบอร์รี ขนมเปี๊ยะอบเทียน ปลาร้าข้าวคั่ว ปลาส้ม หมี่กรอบ ขนมไทย มะม่วง-น้ำปลาหวาน ปลาเผา ธูปหอมพรมงคล เครื่องปั้นดินเผาตกแต่งด้วยผักตบชวา สินค้าอื่นๆ ได้แก่ เป็ดย่าง หมูสะเต๊ะ ผัดไทย กุนเชียง ทอดมัน ผลไม้แปรรูป และยังมีบริการนวดแผนไทย รวมทั้งมีจุดเด่นที่สามารถเข้าชมการสาธิตการสีข้าวซ้อมมือ กิจกรรมล่องเรือชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น พุทธมณฑล วัดสุขวัฒนาราม วัดบางภาษี
กำลังโหลดความคิดเห็น