ผู้จัดการรายวัน 360 - “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส” เร่งแผนขยายศูนย์กระจายสินค้าปทุมธานี-บางนา รองรับพัสดุ 5 แสนชิ้นต่อวันภายในปี 2560 ก่อนทุ่มงบฯ 1 พันล้านบาทลงทุนเพิ่มในปี 2561 ขยายช่องทางขนส่งสินค้าให้ลูกค้าทั้งในกลุ่มธุรกิจออนไลน์รายย่อยและธุรกิจเอสเอ็มอี ล่าสุดจับมือ “ออฟฟิศเมท” เปิดบริการส่งพัสดุด่วน “OfficeMate x Kerry Express” เริ่มต้น 35 บาท นำร่องในร้านออฟฟิศเมท 11 สาขา ก่อนขยายครบ 80 สาขาในปี 2561 ช่วยดันรายได้ “ออฟฟิศเมท” เติบโต 15-20%
นายอเล็กซ์ อึ้ง ผู้อำนวยการบริหารสายงานธุรกิจรับ-ส่งพัสดุ เคอรี่ โลจิสติกส์กรุ๊ป ประจำสาขาประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด มีจุดให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไปมาใช้บริการส่งพัสดุทั้งสิ้นกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้าและคัดแยกสินค้าอีกประมาณ 400 แห่งทั่วประเทศ ล่าสุดเพิ่งก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าใหม่ “ปทุมธานี-บางปะอิน” แล้วเสร็จเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา สามารถรองรับพัสดุได้ถึง 2 แสนชิ้นต่อวัน ถือเป็นการเคลื่อนฐานเข้าสู่ฝั่งเหนือของกรุงเทพฯ อย่างเต็มที่ พร้อมกันนั้นกำลังเร่งขยายพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า “บางนา” ให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 ซึ่งจะทำให้ศูนย์กระจายสินค้าทั้งหมดสามารถรองรับพัสดุได้ถึง 5 แสนชิ้นต่อวัน
ในปี 2560 บริษัทฯ มีฐานลูกค้าส่วนบุคคลเติบโตขึ้นถึง 300% จากปี 2559 อันเนื่องมาจากความพึงพอใจในมาตรฐานการบริการที่รับประกันเรื่องความรวดเร็วคือส่งสินค้าวันนี้ได้รับวันรุ่งขึ้นสูงถึง 99.99% โดยในปี 2561 บริษัทฯ ยังมีแผนใช้งบประมาณ 1 พันล้านบาทสำหรับการลงทุนด้านต่างๆ ในประเทศไทย รวมถึงการเพิ่มจำนวนพาหนะขนส่งสินค้าซึ่งปัจจุบันมี 6 พันคัน แบ่งเป็นรถบรรทุกและรกกระบะให้บริการทั่วประเทศ 80% และรถจักรยานยนต์สำหรับให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ 20%
นายอเล็กซ์กล่าวด้วยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายอุปกรณ์สำนักงานร้าน “ออฟฟิศเมท” (OfficeMate) ในการให้บริการส่งพัสดุด่วน “OfficeMate x Kerry Express” ภายใต้จุดเด่น “ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ถึงวันถัดไป ถูกใจ ง่าย เร็ว” เพื่อขยายช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจออนไลน์รายย่อยและกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี
ด้าน นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริการ “OfficeMate x Kerry Express” ถือเป็นการตอกย้ำให้ร้าน “ออฟฟิศเมท” เป็น “One Stop Business Solutions” กล่าวคือ เจ้าของกิจการสามารถซื้ออุปกรณ์สำนักงานและธุรกิจ รวมถึงส่งพัสดุให้ลูกค้าได้ที่ร้านออฟฟิศเมทแบบครบวงจรภายในที่เดียว โดยคิดราคาค่าส่งพัสดุตั้งแต่ 35-499 บาทตามขนาดกล่อง (น้ำหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม) โดยไม่ใช้ปัจจัยด้านน้ำหนักในการคำนวณค่าบริการ
ปัจจุบันร้าน “ออฟฟิศเมท” เปิดให้บริการส่งพัสดุด่วน จำนวน 11 สาขาในกรุงเทพฯ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, อาคารจิวเวลรี่เทรด เซ็นเตอร์, ซีคอน บางแค, Tree on 3 พระราม 3, อาคารจัสมิน ซิตี้ (สุขุมวิท 23), มิดทาวน์ อโศก, เทสโก้ โลตัส พระราม 1, บิ๊กซี พระราม 4, บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า เพชรเกษม, บิ๊กซี เอกมัย และบิ๊กซี สุขสวัสดิ์ โดยเตรียมขยายพื้นที่การให้บริการเป็น 37 สาขาภายในสิ้นปี 2560 ก่อนที่จะให้บริการครบ 80 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2561
“การร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มบริการเพื่อขยายฐานลูกค้า 2 กลุ่มหลักของทั้ง 2 องค์กร คือ กลุ่มธุรกิจจำหน่ายสินค้าออนไลน์ของเคอรี่ฯ และธุรกิจเอสเอ็มอีของออฟฟิศเมท โดยในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจของออฟฟิศเมทมีการเติบโตเฉลี่ย 8-10% โดยคาดว่าในปี 2560 จะยังคงเติบโตประมาณ 10% แต่จากการเพิ่มบริการส่งพัสดุด่วนครั้งนี้จะทำให้ออฟฟิศเมทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 15-20% ในปี 2561 หลังจากพบว่าปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าทั้งในส่วนของเคอรี่ฯ และออฟฟิศเมทเข้ามาใช้บริการมากขึ้นมากกว่า 15%”
นายวรวุฒิกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันธุรกิจออฟฟิศเมทมีฐานลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจเอสเอ็มอี 2-3 แสนราย ในขณะที่การให้บริการส่งพัสดุด่วนครั้งนี้ถือเป็นการขยายฐานลูกค้ารายย่อยที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์และอยู่ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งจะได้รับความสะดวกในการใช้บริการตามเวลาเปิด-ปิดของห้างสรรพสินค้านั้น โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีแผนพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าที่ จ.ฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ 3.5 หมื่น ตร.ม.ให้มีความทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับนโยบายการจัดส่งสินค้าภายใน 1 วัน