“สนธิรัตน์” ผนึกกำลังกระทรวงดีอีและไปรษณีย์ไทยยกระดับร้านโชวห่วย โดยใช้ “อูเล่ โมเดล” ผลักดันให้หันมาค้าขายผ่านออนไลน์ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกัน เตรียมนำร่อง 50 รายภายในปีนี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้หารือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (เดปป้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อหาแนวทางยกระดับร้านค้าปลีกดั้งเดิม (โชวห่วย) ที่มีอยู่หลายแสนรายให้เป็น “ไฮบริดโชวห่วย” หรือโชวห่วยที่ทำการค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยมีแพลตฟอร์มการซื้อขายเดียวกันทั้งประเทศ เช่นเดียวกับร้านค้าปลีกออนไลน์ “อูเล่” ของจีน
ทั้งนี้ กระทรวงดีอีจะเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม หรือเว็บไซต์ของการซื้อขายผ่านออนไลน์ เพื่อให้โชวห่วย รวมถึงร้านค้าชุมชนของกองทุนหมู่บ้านได้เข้ามาเป็นสมาชิก แล้วเปิดขายสินค้าทางออนไลน์ โดยมีแค็ตตาล็อกสินค้าแสดงอยู่ภายในเว็บไซต์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้ จากนั้นจะไปรับสินค้าที่ร้านโชวห่วยเอง หรือจะให้ไปรษณีย์จัดส่งให้ก็ได้
“ภายในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะนำร่องให้ร้านโชวห่วย รวมถึงร้านค้าชุมชนของกองทุนหมู่บ้านที่มีราว 20,000 แห่งทั่วประเทศ ให้กลายเป็นไฮบริดโชวห่วยก่อน 50 แห่ง โดยขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกโชวห่วยที่มีศักยภาพ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายปีนี้” นายสนธิรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาร้านโชวห่วย โดยให้เพิ่มบริการด้านอื่นๆ เพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น เช่น รับชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ อย่างค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือต่อไปอาจเป็นจุดให้บริการสวัสดิการต่างๆ ของรัฐที่ให้สำหรับผู้มีรายได้น้อย ถือเป็นการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (วันสตอปเซอร์วิส)