“พาณิชย์” เผยสินค้าราคาถูก “ธงฟ้าประชารัฐ” เริ่มขาย เม.ย.นี้ ผ่านร้านโชวห่วยทั่วประเทศ

“พาณิชย์” ดีเดย์ขายสินค้าราคาถูกในโครงการ “ธงฟ้าประชารัฐ” ผ่านร้านค้าส่ง-ค้าปลีก กว่า 2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ดีเดย์ตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นไป เผยราคาถูกกว่าท้องตลาด 15-20% มั่นใจช่วยลดภาระค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อยได้แน่ เผยผู้ผลิตรายใหญ่เตรียมส่งรายชื่อสินค้าให้พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า ส่วน 9 ก.พ.นี้ ส่งคาราวานธงฟ้า บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำโครงการธงฟ้าประชารัฐร่วมกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ เช่น บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยูนิลีเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าในเดือน เม.ย.นี้ ผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถผลิตและกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในเบื้องต้นประมาณ 20 รายการ และขายราคาถูกกว่าราคาในท้องตลาด 15-20% ไปยังร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกดั้งเดิม (โชวห่วย) ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประมาณ 20,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงจะกระจายไปยังตลาดชุมชม ในการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศได้

ทั้งนี้ ภายในสัปดาห์หน้าผู้ผลิตจะจัดส่งรายละเอียดสินค้าที่จะผลิตป้อนในโครงการ เช่น ชนิด และขนาดของสินค้า แบรนด์ของสินค้า เป็นต้น มาให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณา โดยนอกจากจะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดปกติแล้ว ยังมีคุณภาพ มาตรฐาน และเป็นสินค้าแบรนด์เดิมของผู้ผลิตที่ทำตลาดอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่แบรนด์ใหม่ หรือแบรนด์ที่รัฐบาลกำหนด แต่อาจจะลดต้นทุนในด้านอื่นๆ เพื่อให้ราคาถูกลง และจะมีการพิมพ์สัญลักษณ์ “ธงฟ้าประชารัฐ” ลงบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค

“สินค้าที่จะขายในโครงการธงฟ้าประชารัฐ จะราคาถูกกว่าท้องตลาด 15-20% เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ซึ่งรัฐจะเป็นผู้กำหนดราคาขายปลีกสู่ผู้บริโภค ซึ่งราคาสินค้าของผู้ผลิตแต่ละรายอาจไม่เหมือนกันก็ได้ เช่น ผงซักฟอกในขนาดเท่ากัน ของผู้ผลิตรายหนึ่งอาจถุงละ 40 บาท แต่อีกรายราคา 45 บาทก็ได้ เพราะแต่ละรายอาจมีสูตร หรือส่วนผสมในการผลิตต่างกัน ซึ่งผู้บริโภคต้องเลือกซื้อเอง แต่หากผู้ค้ารายใดขายเกินกว่าราคาที่กำหนด จะมีความผิดตามกฎหมาย”

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าโครงการธงฟ้าประชารัฐจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และไม่ล้มเลิกเหมือนโครงการอื่นที่รัฐดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา เพราะได้หาทางปิดจุดบกพร่องที่เกิดจากโครงการก่อนๆ ไว้แล้ว เช่น โครงการนี้จะไม่แข่งขันกับการค้าแบบดั้งเดิมหรือร้านโชวห่วย เพราะได้ใช้ช่องทางของโชวห่วยในการขายสินค้าให้ผู้บริโภค ใช้แบรนด์เดิมของผู้ผลิตในการทำตลาด เป็นต้น

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สำหรับการจัดโครงการธงฟ้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ 12 จังหวัด ในวันที่ 9 ก.พ.นี้จะเริ่มส่งคาราวานธงฟ้าไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนเคลื่อนคาราวานไปที่ จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดอื่นๆ ต่อไป ซึ่งสินค้าที่นำไปจำหน่ายจะเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย อาหารแห้ง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพดี ราคาถูก