ปลัดกระทรวงพลังงานนำทีมคณะผู้แทนจากไทยร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 35 สร้างความร่วมมือด้านพลังงานในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะโครงการสายส่งไฟฟ้าอาเซียนและท่อก๊าซธรรมชาติอาเซียน
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน นำทีมคณะผู้แทนจากประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 35 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (35th ASEAN Senior Officials Meeting on Energy: 35th SOME) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2560 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีปลัดกระทรวงพลังงานและผู้แทนจากประเทศสมาชิก 10ประเทศเข้าร่วมประชุม ภายใต้หัวข้อ “One ASEAN Community Through Resilient and Sustainable Energy”
การประชุมครั้งนี้นับเป็นการประชุมด้านพลังงานของอาเซียนที่สำคัญ เนื่องจากจะเป็นการติดตามการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียน (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation : APAEC) ปี 2016-2025 ระยะที่ 1 ระหว่างปี 2016-2020 ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงและการบูรณาการด้านพลังงาน ผ่านการซื้อขายไฟฟ้าพหุภาคี รวมถึงการเชื่อมโยงก๊าซธรรมชาติอาเซียน เพื่อความยั่งยืนด้านพลังงานในภูมิภาคอาเซียน
โดยการติดตามผลการดำเนินงานจากที่ประชุมครั้งนี้มีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้านพลังงานของไทยอยู่ด้วย คือ 1. ด้านโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน ซึ่งที่ประชุมอาเซียนแสดงความยินดีกับไทย มาเลเซีย และ สปป. ลาว ในการดำเนินโครงการบูรณาการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของอาเซียนที่จะมีการซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ โดยผลิตจาก สปป.ลาว ไปยังมาเลเซีย โดยผ่านประเทศไทย และจะมีการลงนามในสัญญา Energy Purchase and Wheeling Agreement (EPWA) ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 35 (35th ASEAN Ministers on Energy Meeting : 35th AMEM) ในเดือนกันยายน 2560 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะกรรมการเชื่อมโยงไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid Consultative Committee : APGCC) ทำหน้าที่ในการดำเนินงานและอำนวยความสะดวกด้านความเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าอาเซียน การจัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับการพัฒนาโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid : APG) เพื่อรองรับการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างภูมิภาคในรูปแบบพหุภาคีให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต
2. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติอาเซียน อาเซียนได้ดำเนินการแล้วเสร็จเร็วกว่าแผน APAEC ที่กำหนดเป้าหมายไว้ว่าในปี 2020 จะสามารถผลักดันให้มีกฎหมายเปิดให้บุคคลสามารถเข้ามาใช้หรือเชื่อมต่อระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว (Third Party Access Code) ให้ได้อย่างน้อย 1 ประเทศ ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ได้มีกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้ว และ 3. ด้านพลังงานทดแทนและด้านประสิทธิภาพและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งอาเซียนมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ร้อยละ 23 ของการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายภายในปี 2025 ซึ่งในปัจจุบันอาเซียนมีสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ร้อยละ 12-13 สำหรับการลดความเข้มข้นในการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ภายในปี 2025 อาเซียนสามารถลดความเข้มข้นในการใช้พลังงานลงได้ร้อยละ 15.92 อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งให้มีการติดตามและรายงานข้อมูลดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการส่งโครงการเข้าประกวดเพื่อรับรางวัล ASEAN Energy Awards 2107 ไทยส่งโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงานและประสิทธิภาพพลังงาน จำนวน 13 รางวัล ด้านพลังงานทดแทน จำนวน11 รางวัล เข้าร่วมประกวด ASEAN Energy Awards รวมถึงส่งโครงการที่ได้รับรางวัลจาก Thailand Coal Awards 2017 เข้าร่วมประกวดรางวัล ASEAN Coal Awards 2017 จำนวน 7 รางวัล ซึ่งจะมีการประกาศผลโครงการที่ได้รับรางวัลในช่วงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 35 ในเดือนกันยายน 2560 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ต่อไป