คอร์รัปชันไทยยังแย่ในสายตาต่างชาติ! ปตท.ลงนามคุณธรรมย้ำเจตนาต่อต้าน

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นยอมรับไทยยังมีปัญหาคอร์รัปชันในสายตาต่างชาติ ชี้เป้าหน่วยงานอนุมัติใบอนุญาตต่างๆ ยังต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ ต้องเร่งปฏิรูประบบราชการใหม่ ด้าน “ปตท.” ลงนามข้อตกลงคุณธรรมต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ย้ำเจตนารมณ์ต่อต้านการคอร์รัปชัน

วันนี้ (18 ก.ค.) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรม โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 ส่วนที่ 2 และโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งใหม่ จ.ระยอง โดยมีนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ปตท. และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.ร่วมพิธี
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า ขณะนี้ในสายตานักลงทุนต่างชาติยังมองว่าการคอร์รัปชันของไทยยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวกับการอนุมัติออกใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งยังคงต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกและให้เร็วขึ้น แต่พฤติกรรมความผิดลดลงเพราะจะเน้นจ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อแลกกับความสะดวกเป็นหลัก ไม่ใช่การจ่ายเงินเพื่อได้มาซึ่งใบอนุญาต ประเด็นนี้ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยในสายตาต่างชาติขณะนี้จึงไม่ค่อยดี

“รัฐบาลชุดนี้ถือว่ามีความตั้งใจดีแต่ก็ยังทำไม่ได้เหมือนกับที่เราอยากเห็นนัก ซึ่งหลักๆ มาจากระบบราชการที่มีลักษณะเป็นกลไกเดิมๆ มานาน ดังนั้นเราก็กำลังพิจารณาร่วมกันว่าที่สุดจำเป็นจะต้องปฏิรูประบบราชการที่ขณะนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่” นายประมนต์กล่าว

ทั้งนี้ องค์กรฯ มีความตั้งใจที่จะดำเนินโครงการต่างๆ ให้มากขึ้น แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของกำลังคนที่เป็นผู้สังเกตการณ์ที่ปัจจุบันมีเพียง 250 คนซึ่งมีแผนที่จะเพิ่มเป็น 300-400 คน จึงจะทำให้เกิดการตรวจสอบได้มากขึ้น และการเป็นผู้สังเกตการณ์ต้องผ่านการคัดเลือก ส่วนเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้นทางองค์กรฯ ได้ส่งคนเข้าไปสังเกตการณ์ในส่วนของโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่แล้ว และกำลังดูอยู่ว่าจะขยายไปยังโครงการใดเพิ่มอีก ส่วนของ ปตท.นั้นจะใช้ผู้สังเกตการณ์ประมาณ 9 คน

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงานกล่าวว่า ภาครัฐพยายามที่จะผลักดันให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ระดับ 1,000 ล้านบาททำข้อตกลงคุณธรรม เนื่องจากหากดำเนินการทุกโครงการทั้งหมดคงเป็นไปได้ยากเพราะมีจำนวนมากขณะที่ผู้สังเกตการณ์เองก็คงจะไม่เพียงพอด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีการลงนามด้านคุณธรรมโครงการต่างๆ ระหว่างรัฐกับเอกชน รัฐก็มีนโยบายต่างๆ เพื่อความโปร่งใสอยู่แล้ว

“โครงการทั้งหมดรวมแล้วกว่า 1.35 แสนล้านบาท เมื่อเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเชื่อว่าเงินลงทุนจะต่ำกว่านี้มาก เพราะที่ผ่านมาหลายโครงการของรัฐลดลงไป 10-20% เพราะไม่มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะ” รมว.พลังงานกล่าว

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท.ได้เข้าร่วมในโครงการข้อตกลงคุณธรรมอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการจัดขึ้นในปี 2558 เป็นต้นมา และปีนี้ ปตท.ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริตให้เข้าร่วมจัดทำข้อตกลงคุณธรรม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 ส่วนที่ 2 และโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งใหม่ จ.ระยอง โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชนจำนวน 9 ท่าน ร่วมลงนามในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย

การลงนามในข้อตกลงคุณธรรม โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 ส่วนที่ 2 เป็นการลงนามระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับผู้แสดงความประสงค์จะซื้อเอกสารประมูลราคาล่วงหน้า 8 ราย โดยเป็นโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ และเพิ่มกำลังการส่งก๊าซธรรมชาติจากฝั่งตะวันออกไปยังโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก อีกทั้งเป็นการเพิ่มความมั่นคงในการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่โรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้าวังน้อย โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าในอนาคต โดยโครงการฯ มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2564 ในงบประมาณการลงทุนทั้งสิ้น 96,500 ล้านบาท

สำหรับโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งใหม่ จ.ระยอง เป็นการลงนามระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับผู้ร่วมเสนอราคา 6 ราย ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 ให้ ปตท.ดำเนินโครงการฯ ซึ่งเป็นการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลวเพื่อรองรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในปริมาณ 7.5 ล้านตันต่อปี มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2565 ในวงเงินงบประมาณการลงทุน 38,500 ล้านบาท