ผู้จัดการรายวัน 360 - กงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักร “เลโซโท” เผยกลุ่มนักธุรกิจไทยให้ความสนใจมุ่งเป้าแหล่งลงทุนใหม่ เหตุเพียบพร้อมด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งด้านทำเลที่ตั้ง โอกาสทางการตลาด ทรัพยากรธรรมชาติ ความมั่นคงทางการเมือง และศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีภูมิประเทศสวยงามจนได้ชื่อว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งแอฟริกา” พร้อมเชิญร่วมชมศักยภาพของเลโซโทในงาน “The Colours of Africa” ระหว่างวันที่ 17-19 ก.ค.นี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์
นายอภิชาติ สุดแสวง กงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเลโซโทประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ที่ให้ความสนใจสอบถามข้อมูลทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน และศักยภาพด้านต่างๆ ของประเทศเลโซโท โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพราะประเทศเลโซโทตอบโจทย์ได้อย่างดียิ่ง เนื่องจากมีความพร้อมทั้งในด้านของทำเลที่ตั้ง สามารถเข้าถึงนานาประเทศในแอฟริกาตอนใต้สะดวก รวมทั้งไม่ไกลจากท่าเรือ ในด้านของตลาดก็มีศักยภาพมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่ได้ประโยชน์ด้านภาษีจาก United States’African Growth and Opportunity act (AGDA) ในการนำเข้าไปยังสหรัฐอเมริกา
จุดเด่นอีกด้านของประเทศเลโซโทคือเรื่องพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานทดแทน มีโอกาสมากสำหรับนักลงทุนไทย เพราะปัจจุบันนี้ประเทศเลโซโทสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ไม่ถึงครึ่งของความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องและให้การสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอด ขณะที่การเกษตรและอาหารถือเป็นอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนเพราะคนไทยมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องอาหาร โดยเรื่องนี้ยังเป็นวาระแห่งชาติของประเทศเลโซโท เพราะสามารถผลิตอาหารเลี้ยงประชากรได้เพียง 1 ใน 3 ของประเทศ จึงจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของประเทศ นอกจากนั้นยังมีลู่ทางการลงทุนในด้านต่างๆ อีกมากมาย
“แม้ว่าเลโซโทจะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก มีประชากรไม่ถึง 3 ล้านคน แต่เราอย่ามองเฉพาะตลาดภายในของเลโซโทเท่านั้น เพราะประเทศนี้มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอยู่ 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกรวมตัวกับอีก 15 ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน คล้ายๆ กับกลุ่มอาเซียน เรียกว่า SADC หรือ Southern African Development Community มีประชากรรวมกันมากกว่า 230 ล้านคน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของกลุ่มนี้มากกว่า 5% ติดต่อกันมาหลายปี ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือ SACU หรือ South Africa Customs Union มี 5 ประเทศติดกันในภูมิภาคแอฟริกาใต้ มีประชากรรวมกันประมาณ 60 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนี้เน้นเรื่องระบบภาษี ศุลกากร จะยกเว้นภาษีระหว่างกันสำหรับการค้าขายในประเทศสมาชิก”
สำหรับที่ตั้งของราชอาณาจักรเลโซโทถือเป็น Stratigic Location อยู่ใจกลางของกลุ่ม มีความพร้อมทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีระบบสาธารณูปโภคที่ดี ประชากรมีคุณภาพ ค่าแรงถูก และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการทำให้สื่อสารเข้าใจกันได้ง่าย ประชาชนมากกว่า 90% สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง ถือว่ามีความแตกต่างจากหลายประเทศในแอฟริกาที่มีความขัดแย้งทางการเมืองและเชื้อชาติ ที่สำคัญคือมีระบอบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและชาวเลโซโทก็รักสถาบันพระมหากษัตริย์เฉกเช่นเดียวกับชาวไทย ดังนั้นทั้งสองประเทศจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีและลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
นายอภิชาติกล่าวด้วยว่า ประเทศเลโซโทเป็นที่รู้จักของชาวไทย เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 เสด็จฯ มาประเทศไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะ เพื่อร่วมพระราชพิธีเฉลิมฉลองและถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปีเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยสมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 มีความสนพระทัยในโครงการหลวง จึงทรงขอพระราชทานนำโครงการหลวง การพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนไปทดลองบนพื้นที่ส่วนพระองค์ในเมือง Matsieng เพื่อช่วยเหลือชาวเลโซโท โดยโครงการดังกล่าวได้ประสบผลสำเร็จจนรัฐบาลเลโซโทได้สร้าง “หอเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” เพื่อจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ประเทศเลโซโทได้นำมาเป็นแบบอย่างในการพัฒนาประเทศ
ในด้านของการท่องเที่ยว เลโซโทถือเป็นประเทศที่อยู่บนที่สูง เต็มไปด้วยภูเขาจำนวนมากเรียงตัวสลับซับซ้อน สวยงามจนได้รับสมญานาม “สวิตเซอร์แลนด์แห่งแอฟริกา” มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี ในฤดูหนาวจะมีหิมะตกบนยอดเขาและมีการพัฒนาเป็นสกีรีสอร์ตที่ชาวยุโรปและชาวแอฟริกาจากส่วนอื่นๆ ของทวีปนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเลโซโทยังมีมากมาย เช่น น้ำตก Maletsunyane ที่มีความสูงที่สุดในทวีปแอฟริกา เขื่อนขนาดใหญ่ที่มีทิวทัศน์สวยงามเป็นไฮไลต์ ถ้ำที่เคยเป็นที่อาศัยของมนุษย์ถ้ำดึกดำบรรพ์ รวมทั้งมีรอยเท้าไดโนเสาร์ Lesothosaurus อยู่หลายแห่ง
อนึ่ง ผู้สนใจทั้งในด้านการค้า การลงทุนหรือการท่องเที่ยวประเทศเลโซโท สามารถชมศักยภาพและรับข้อมูลประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งคำแนะนำต่างๆ ได้ในงาน “The Colours of Africa” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 ก.ค. 60 ณ บริเวลานอีเดน 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์