PTTLNG เดินหน้าเปิดประมูลก่อสร้างสถานีรับจ่ายแอลเอ็นจีและท่าเทียบเรือหนองแฟบภายใน ก.ค.นี้ คาดรู้ผลปลายปีนี้หวังราคาต่ำกว่าแผน ส่งผลทั้งโครงการต้นทุนต่ำกว่า 3.85 หมื่นล้านบาท
นายรัตติกูล ปิยะวงค์วาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับ บริษัท พีทีทีแอลเอ็นจี จำกัด ในเครือ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดให้ผู้รับเหมางานยื่นประมูลโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือและสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ จ.ระยอง โดยวิธีประมูล ราคากลางประมาณ 30,000 ล้านบาท ขนาด 7.5 ล้านตัน/ปี ซึ่งจะปิดรับข้อเสนอในเดือน ก.ค.นี้ และคาดจะรับทราบผลการก่อสร้างภายในปลายปี 2560
ทั้งนี้ จากตลาดแอลเอ็นจีเป็นของผู้ซื้อก็คาดว่าค่าก่อสร้างจะอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ซึ่งเดิมแผนก่อสร้างสถานีดังกล่าวถือเป็นแห่งที่ 2 เดิม ปตท.คาดต้องใช้เงินลงทุน 38,500 ล้านบาท แต่จากตลาดที่มีการแข่งขันคาดว่าจะทำให้ต้นทุนก่อสร้างลดต่ำกว่าที่กำหนด โดยตามแผนการก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมรับก๊าซในไตรมาส 1/2565
สำหรับการจัดทำแบบประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA สถานีหนองแฟบนั้น บริษัทได้จัดทำครอบคลุม 15 ล้านตัน/ปี เป็นการเตรียมไว้สำหรับความต้องการก๊าซของประเทศในอนาคต ทั้งจากความต้องการใช้ไฟฟ้า-อุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณก๊าซในประเทศลดลง
ในส่วนสถานีรับจ่ายก๊าซ แอลเอ็นจี ที่ 1 (มาบตาพุด) ส่วนขยาย 1.5 ล้านตัน/ปี จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรองรับ 10 ล้านตัน/ปีนั้น ในขณะนี้กำลังวางแผนเดินหน้าลงทุนปรับในส่วนของการแปลงสภาพก๊าซอีกกว่า 1,000 ล้านบาท จะแล้วเสร็จรับก๊าซในไตรมาส 1/2562
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลเห็นชอบให้ขยายสถานีนี้เป็น 15 ล้านตัน ทางบริษัทก็จำเป็นต้องสร้างถังรองรับใหม่จากปัจจุบันมี 4 ถังก็จะเพิ่มเป็น 6 ถัง ซึ่งจะต้องลงทุนอีกเท่าไหร่ในขณะนี้ต้องรอภาครัฐตัดสินใจแผนให้ชัดเจนก่อน
“การที่ประเทศมีสถานีแอลเอ็นจีนับเป็นการเสริมความมั่นคง โดยจากการที่เจดีเอเอ 18 เกิดอุบัติเหตุหยุดชั่วคราว ขณะนี้ก็มีการเรียกก๊าซแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เป็น 900 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน” นายรัตติกูลกล่าว / สำนักข่าวไทย