กรมทางหลวงยังเข้มรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ในรอบ 7 เดือนจับได้กว่า 2,621 คัน เร่งปราบสาเหตุหลักถนนพัง วอนประชาชนเป็นหูเป็นตา เพื่อช่วยกันประหยัดงบประมาณประเทศ
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงมีนโยบายปรับปรุงเครือข่ายด่านชั่งน้ำหนักถาวร และด่านชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ทั่วประเทศ โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่มีการผ่อนผันให้ผู้ประกอบการในการบรรทุกน้ำหนักเกิน อันจะส่งผลให้ลดงบประมาณในการซ่อมบำรุงรักษาทางหลวงและลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่เกิดกับโครงสร้างสะพานและทางลอด โดยได้กำชับให้สถานีตรวจสอบน้ำหนักทั่วประเทศจำนวนกว่า 70 แห่ง บูรณาการการทำงานร่วมกันรวมถึงจัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดด่านชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่จากส่วนกลางของสำนักควบคุมน้ำหนักยานพาหนะออกไปสุ่มจับรถที่บรรทุกน้ำหนักเกินอันจะเป็นการป้องปรามอีกทางหนึ่ง
โดยสถิติการจับกุมล่าสุดระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559-25 มิถุนายน 2560 สามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้จำนวน 2,621 คัน แบ่งตามประเภทวัสดุบรรทุกที่น้ำหนักเกินดังนี้ 1. ดิน, หิน, ทราย 37% 2. สินค้าเกษตร 23% 3. วัสดุก่อสร้าง 11% 4. ไม้ 6% 5. เครื่องจักร 4% ที่เหลือเป็นอื่นๆ เช่น น้ำมันของเหลว สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเพื่ออุปโภคบริโภค
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมาสามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ 3 คัน บริเวณทางหลวงหมายเลข 12 พื้นที่ อ.ชุมแพ จ. ขอนแก่น เป็นรถ 6 เพลา 22 ล้อ บรรทุกหินกว่า 95, 92, 86 ตันตามลำดับ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดไว้เพียง 50.5 ตัน ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่ามีการจ่ายเงินสินบนแก่เจ้าหน้าทีเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมนั้น ถ้าหากมีเบาะแสสามารถแจ้งมายังช่องทางของกรมทางหลวงได้เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดจริงก็จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นสูงสุด
ทั้งนี้ กรมทางหลวงขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้ทางหลวง หากพบเห็นรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนดให้แจ้งตำรวจทางหลวงหมายเลข 1193 หรือสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทร.ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง) และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 กด 5 (สำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ) เพื่อเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของถนนและประหยัดงบประมาณซ่อมบำรุงถนนของประเทศ