กบร.เห็นชอบยกเลิกประกาศจัดสรรเส้นทางบิน 2 ฉบับ ยุบรวมเป็นประกาศ กพท.เพื่อความสะดวกในการกำหนดขั้นตอนออกใบอนุญาตประกอบกิจการค้าขาย (AOL) พร้อมปรับเกณฑ์นับชั่วโมงนักบินราชการ กรณีขอเปลี่ยนใบอนุญาตเป็นนักบินพาณิชย์ แก้ปัญหาขาดแคลน
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานว่า มีมติเห็นชอบยกเลิกประกาศ 2 ฉบับเรื่องการจัดสรรเส้นทางบิน ได้แก่ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่องหลักเกณฑ์ในการจัดสรรเส้นทางบิน ประกาศกรมการขนส่งทางอากาศ ในการจัดสรรเส้นทางบินระหว่างประเทศ โดยให้รวมเป็นประกาศ กพท.ฉบับใหม่เกี่ยวกับการจัดสรรเส้นทางการบินเพื่อความสะดวกในการใช้ โดยสาระของกฎหมายเป็นการกำหนดขั้นตอนผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการค้าขาย หรือ AOL ในกรณีขอสิทธิ์การบินเส้นทางภายในประเทศ เส้นทางระหว่างประเทศ จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งได้ร่างประกาศแล้ว จะสามารถออกประกาศและบังคับใช้ภายใน 1 เดือน
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบร.ยังพิจารณาเรื่องการกำหนดสิทธิของนักบิน กรณีที่เป็นนักบินส่วนราชการ ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาในการนับชั่วโมงบิน กรณีเปลี่ยนไปเป็นนักบินพาณิชย์ให้กับสายการบิน โดยเงื่อนไขเดิมกำหนดให้ผู้ที่จะขอใบอนุญาตเป็นนักบินพาณิชย์นั้นจะต้องทำการบิน 1,500 ชม. ซึ่งมีประเด็นว่า หากเป็นนักบินราชการมาก่อนจะนับชั่วโมงบินอย่างไร โดยที่ประชุมมีมติกรณีดังกล่าว โดยกรณีนักบินราชการต้องการได้ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์นั้นจะต้องทำการบินเครื่องบินขนส่งเชิงพาณิชย์ อย่างน้อย 200 ชม. จึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตเป็นนักบินพาณิชย์ได้ โดยจะมีรายละเอียดประเภทเครื่องบินที่จะได้รับใบอนุญาต
“เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาขาดแคลนนักบิน เพราะที่ผ่านมามีนักบินทหาร ทั้งบก เรือ อากาศ ตำรวจ นักบินฝนหลวง นักบินกรมท่าอากาศยาน หรือที่ทำราชการปีละเป็นร้อยคนที่ลาออกจากราชการไปเป็นนักบินพาณิชย์ ทั้งด้วยเหตุผลเพื่อรายได้ที่แตกต่าง หรือกรณีใช้ทุนราชการหมดแล้วต้องการไปบินเอกชน จะพบปัญหาการนับชั่วโมงบิน วันนี้หลักเกณฑ์ชัดเจนแล้ว แต่ก็มองในเรื่องของสมองไหลออกจากส่วนราชการเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันสายการบินขนาดใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขาดแคลนนักบิน เพราะจะมีการบริหารจัดการนักบินให้สอดคล้องกับจำนวนเครื่องบินที่มี จะมีเฉพาะสายการบินขนาดเล็กที่มีปัญหาเพราะแย่งตัวนักบินไม่ค่อยได้”
นอกจากนี้ กบร.ยังพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ ข้อกำหนดนักเรียนการบิน กรณีที่ต้องผ่านการตรวจสุขภาพและจิตใจใน Class 1 ก่อน ซึ่งโรงเรียนการบินเห็นว่าเป็นข้อกำหนดที่เข้มงวด และตามมาตรฐาน ICAO ให้สอบใน Class 2 ดังนั้น กบร.จึงผ่อนปรนให้นักเรียนการบินตรวจสุขภาพและจิตใจใน Class 2 และให้แจ้งข้อกำหนดนี้ต่อผู้ปกครองและนักเรียนทราบตั้งแต่แรก และเข้าใจตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากรณีเรียนจบนักบินแล้วแต่ไม่ผ่านด้านสุขภาพ เพราะจะถือว่าที่ผ่านมาเรียนโดยเปล่าประโยชน์ และไม่สามารถเป็นนักบินได้