“สนธิรัตน์” ทำยุทธศาสตร์ผลไม้เมืองร้อน ดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้า

“สนธิรัตน์” สั่งทำยุทธศาสตร์ผลไม้เมืองร้อนให้เสร็จภายใน 2-3 เดือนนี้ ตั้งเป้าดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก และเป็นผู้นำในการกำหนดราคาเพื่อช่วยดูแลราคาให้เกษตรกร เผยปีนี้พาณิชย์ทำสำเร็จ จุดกระแสบริโภคทุเรียน ทำให้ราคาดีแม้ผลผลิตเพิ่มจากปีก่อนถึง 30%

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังจัดทำยุทธศาสตร์ผลไม้เมืองร้อน เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการผลไม้ทั้งประเทศอย่างเป็นระบบ ป้องกันปัญหาราคาตกต่ำในระยะยาว โดยตั้งเป้าหมายเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก และเป็นมหาอำนาจของโลกในการกำหนดทิศทางราคาของผลไม้เมืองร้อน ซึ่งเบื้องต้นจะผลักดันผลไม้เมืองร้อนที่มีศักยภาพก่อนจำนวน 10 ชนิด เช่น ทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด ลำไย เป็นต้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2-3 เดือนนี้

โดยแนวทางในการดำเนินการ จะผลักดันเกษตรกรนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต ใช้นวัตกรรมในการบริหารจัดการผลผลิต และผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมาตรฐาน และตรงตามความต้องการของตลาดเพื่อแก้ปัญหาการปลูกผลไม้ตามกระแส ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลเสียทำให้ผลผลิตมีมาก และกระทบต่อราคาของเกษตรกร รัฐต้องเข้าไปแก้ปัญหาทุกปี แต่ถ้ามีการวางแผนก็จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป

“อย่างปีนี้ผลผลิตทุเรียนออกมามากกว่าปีก่อนถึง 30% ซึ่งถ้าเป็นช่วงปกติจะต้องมีปัญหาราคาตกต่ำ แต่กระทรวงฯ ได้วางแผนล่วงหน้า ผลักดันส่งออกไปตลาดจีน และจุดกระแสบริโภคทุเรียน ซึ่งได้ผล ทำให้ทุเรียนไม่มีปัญหาด้านราคา แถมราคาดีอีก แต่ผลไม้ตัวอื่นอาจไม่โชคดีแบบนี้ จึงต้องวางยุทธศาสตร์ให้ชัด ทั้งการเพาะปลูก การทำตลาด” นายสนธิรัตน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม นอกจากการผลักดันให้เกิดกระแสการบริโภคทุเรียนแล้ว ยังจะส่งเสริมการตลาดเพิ่มเติม เช่น เชื่อมโยงจากแหล่งผลิตไปยังตลาดปลายทาง ทั้งห้างค้าปลีก ตลาดต้องชม และตลาดการค้าชายแดน รวมไปถึงเพิ่มช่องทางการตลาดผ่านการค้าออนไลน์ ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ ส่งเสริมการแปรรูปผลไม้ และขยายตลาดต่างประเทศ เช่น อินเดีย ที่มีความต้องการผลไม้เมืองร้อนเพิ่มขึ้น