ปตท.แจงบอร์ดปรับเพิ่มงบลงทุนปีนี้มาอยู่ที่ 9.39 หมื่นล้านบาท โดยเสนอ กกพ.พิจารณาแผนขยายคลัง LNG เฟส 2 อีก 1.5 ล้านตัน หรือลงทุนคลังเฟส 3 อีก 5 ล้านตัน เผยแนวโน้มไตรมาส 2/60 ส่อขาดทุนสต๊อกน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบต่ำกว่าไตรมาส 1/60
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มงบลงทุนในปี 2560 เป็น 9.39 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 8.36 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการปรับเพิ่มเพื่อแสวงหาโอกาสในห่วงโซ่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG value chain) เบื้องต้นอยู่ระหว่างเสนอแผนให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณา 2 แนวทาง คือ การลงทุนคลัง LNG เฟส 3 ปริมาณการนำเข้า 5 ล้านตัน/ปี หรือการลงทุนขยายคลัง LNG เฟส 2 เพิ่มอีก 1.5 ล้านตัน/ปี จากปัจจุบันคลัง LNG เฟส 2 มีปริมาณการนำเข้าอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน/ปี
อีกทั้งบริษัทมองถึงโอกาสการลงทุนในโครงการ FSRU ในพม่า ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ได้ข้อสรุปได้
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 ปตท.มีโอกาสขาดทุนสต๊อกน้ำมัน หากราคาน้ำมันดิบปิดสิ้นไตรมาสต่ำกว่าไตรมาส 1/60 ที่อยู่ในระดับ 53.1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมาอยู่ระดับ 44 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย เพราะบริษัทเชื่อว่าแนวโน้มของราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นตามความต้องการใช้ที่เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นช่วงไฮซีซันของการใช้น้ำมัน เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามประมาณการราคาเฉลี่ยในปีนี้ที่บริษัทคาดไว้ในระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นประมาณการเดิมของบริษัท