ผู้จัดการรายวัน 360 - “เซ็นทรัล” ปรับใหญ่ “ซาโลร่า” หลังซื้อมาปีเศษ เปลี่ยนเป็น “ลุคสิ” บุกแฟชั่นชอปปิ้งออนไลน์เต็มรูปแบบ อัดงบตลาดปีแรก 100 ล้านบาท หวังยอดขาย 500 ล้านบาท
นางสาวพรชนก ตันสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจออนไลน์ บริษัท เซ็นทรัล กรุ๊ป ออนไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้ทำการปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ซาโลร่าใหม่ ทั้งชื่อ แพลตฟอร์ม หลังจากที่ได้ซื้อธุรกิจมาจากทางกลุ่ม บริษัท ร็อคเก็ต อินเตอร์เน็ต ประมาณปีกว่าแล้ว โดยในไทยจะใช้ชื่อว่า ลุคสิ (www.looksi.com) ส่วนที่เวียดนาม เปลี่ยนชื่อเป็น โรบิ้นดอทคอม เพื่อรุกตลาดแฟชั่นชอปปิ้งออนไลน์เต็มรูปแบบ โดยใช้งบการตลาดรวมกว่า 100 ล้านบาท ในการเปิดดำเนินการใหม่เริ่มเดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ “ลุคสิ” จะมีความแตกต่างจากเซ็นทรัลออนไลน์และออนไลน์ของแต่ละบียูของกลุ่มเซ็นทรัลที่ดำเนินการอยู่แล้ว เนื่องจาก ลุคสิ จะเป็นเฉพาะชอปปิ้งออนไลน์เท่านั้น โดยทางเซ็นทรัลได้ปรับกลยุทธ์การตลาดแบบเดิมให้เปลี่ยนเป็นการตลาดแบบออมนิแชนเนล คือการผสานช่องทางทั้งหมดในเครือของเซ็นทรัลทั้งออนไลน์และออฟไลน์เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยบริการที่ครบวงจรทั้งแอปพลิเคชัน โมบายล์ไซต์ และเว็บไซต์
ปัจจุบัน ลุคสิ มีสินค้ามากกว่า 1,000 แบรนด์ เกี่ยวกับแฟชั่น ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา เป็นต้น เป็นทั้งแบรนด์ที่เซ็นทรัลจัดจำหน่ายและสินค้าที่คนทั่วไปนำมาฝากขาย เช่นเดิม สัดส่วน 50% เท่ากันจากเดิมเป็นมาร์เกตเพลส และมีสินค้ามากกว่า 50,000 เอสเคยู กลุ่มเป้าหมายหลักคือ อายุ 18-25 ปี รองมาคือ อายุ 26-35 ปี ซึ่งหลังจากที่ทดลองเปิดบริการได้เดือนเศษพบว่าอัตราการซื้อสินค้าต่อบิลเพิ่มทั้งมูลค่าและจำนวนจากเดิมก่อนหน้าที่เป็นซาโลร่าอยู่เดิม ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ 70% อยู่ต่างจังหวัด นอกจากนั้นมีสินค้าที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์กับลุคสิเท่านั้น รวมไปถึงมีแผนที่จะเพิ่มแฟชั่นไทยแบรนด์เข้ามาจำหน่ายด้วย
“จากเดิมตอนที่ยังเป็นซาโลร่าเรามีสินค้ามาก แต่เป็นสินค้าที่อาจจะไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ ราคาไม่สูง แต่ตอนนี้สินค้าเราปรับใหม่หมดแล้ว ส่วนสินค้าในส่วนมาร์เกตเพลสจะนำมาวางขายเราก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดทั้งคุณภาพ ราคา และการถ่ายรูป การเขียนเนื้อหาด้วย ปัจจุบันมีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บ 2 ล้านคน โต 10% ทุกเดือน โดยมีผู้ที่ซื้อจริงประมาณ 1-2% เพราะยังเริ่มต้น ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีแรกนี้ 500 ล้านบาท และคาดหวังภายใน 3 ปีรายได้จะมากกว่า 1,000 ล้านบาท” นางสาวพรชนกกล่าว
นางสาวพรชนกกล่าวว่า การเติบโตของชอปปิ้งออนไลน์มีอยู่ต่อเนื่องเป็นเทรนด์ที่มีศักยภาพ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นตลาดหนึ่งที่ออนไลน์มีการเติบโตดี โดยในไทยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรประมาณ 67% สูงกว่าเกณท์ทั่วโลกที่อยู่ที่ 50% ขณะที่คนไทยใช้เวลาในการเข้าอินเทอร์เน็ตผ่านทางมือถือประมาณ 4.1 ชั่วโมงต่อวันต่อคน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นในเซาท์อีสต์เอเชียด้วยซ้ำไป เช่น อินโดนีเซียประมาณ 3.6 ชั่วโมง, มาเลเซียประมาณ 3.4 ชั่วโมง, ฮ่องกง ประมาณ 2.3 ชั่วโมง, สิงคโปร์ประมาณ 2.2 ชั่วโมง เป็นต้น ขณะที่เมื่อปี 2559 คนไทยใช้มือถือเข้าอินเทอร์เน็ตมีประมาณ 31 ล้านคน